28.12.52

มุมเล็กๆ ของฉันในคืนวันคริสต์มาส





Christmas 2009 ปีนี้ที่แปดริ้ว จัดที่หน้าโรงพยาบาลเมือง ริมแม่น้ำบางปะกงครับ ไปเก็บภาพมาเมื่อวาน (27 พย 52) คนเยอะมากทั้งลูกเด็กเล็กแดง วัยรุ่นที่มากันเป็นกลุ่ม มาแบบเดี่ยว หรือแบบแพ็คคู่ แบกกล้องกับขาตั้งออกจากบ้าน เพื่อไปเก็บภาพจากบนสะพานและในงาน ได้มานิดหน่อยตามแบบของเรา มืดๆ ดำๆ ทะมึนๆ ด้วยฉากหลังในคืนวันที่ไม่มีดาว

เห็นว่าไอ้ต้นมะเขือยักษ์ไฟเยอะๆ นี่ ราคาต้นละหกแสนบาทเชียวนะ เพื่อนมมันบอกมาอีกที ซึ่งก็โอเคนั่นแหละกับเงินหกแสนถ้ามันแลกมากับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนที่มาร่วมงาน...เท่าไหร่ก็คุ้ม

ชั่วโมงนึงกับคืน Christmas ของปีนี้ ยาวกว่าปีที่แล้วนิดหน่อย
แต่คงเหมือนๆ เดิมกับปีที่แล้วก็คือคงต้องอวยพร (ให้ใครดีวะ)
สุขสันต์วัน Christmas ครับ...

ไม่ช้าไปหรอก รับเอาไว้เหอะ
ฉะเชิงเทรา 2552

23.12.52

ปีใหม่...ทำอะไรให้ตัวเอง?

ที่เห็นนี่ไม่ใช่เครื่องมือขุดถนนนะครับ แต่มันคือเครื่องมือทำฟัน...ย้ำว่าเครื่องมือทำฟันจริงๆ ซึ่งถ้าดูกันแบบผิวเผินแล้ว หน้าตามันกระเดียดไปทางเครื่องประหารชีวิตเสียมากกว่า -_-' เรื่องมีอยู่ว่าในช่องปากของผมมี หินปูน ค่อนข้างเยอะ (ที่จริงต้องใช้คำว่า โคตรเยอะ ถึงจะถูก) สะสมและหมักหมมด้วยความขี้เกียจที่จะเดินทางไปร้านทำฟัน เพื่อให้หมอแงะปากมาเป็นเวลานานนับสิบปี จริงๆ นะ... สิบปี!!! มันก็เลยส่งผลทำให้เหงือกและฟันของผม อุดมไปด้วยหินปูนและจุลินทรีย์ ที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายกูเลย

จนถึงเวลาที่ทนไม่ได้ (หมายถึงคนใกล้ตัว) เขาทนไม่ไหว ก็เลยไล่ให้ไปกำจัดหินปูนอันน่ารังเกียจนี้ทิ้งไปซะโดยด่วน (นะโว้ย) ผมก็เลยจำต้องก้มหน้าก้มตา เดินดุ่ยๆ เข้าแดนประหารไปเมื่อวานครับ ส่วนเรื่องราวอันสยดสยองภายในคลีนิคของคุณหมอแว่นแสนน่ารัก กับเครื่องมือทุกชนิดที่เอามาถ่างและแงะปากผมในระยะเวลาหนึ่งชั่วโมงนั้น อย่าไปพูดถึง ขออนุญาตละไว้ในที่นี้แล้วกันนะครับ เพราะว่ายังเสียวว่าบกับเสียงของเครื่องขูดหินปูนอยู่ที่มันวิ่งเล่นอยู่ในปากของผมไม่หาย

เอ้า..แต่ผลที่ได้ออกมา เป็นที่น่าพอใจสำหรับทุกฝ่ายยิ่งนัก รวมทั้งตัวผมเองด้วย สุขภาพปากถูกขุดขึ้นมาจากหลุม รดน้ำแล้วพรวนดินใหม่ สวยงามชวนมองเสียจริงๆ ขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนและเป็นห่วงในสุขภาพช่องปากของผมเป็นอย่างมากครับ ปุ๋ยดีใจจริงๆ ฮ่ะที่มีวันนี้

นี่ก็ใกล้ปีใหม่แล้ว เลือกทำอะไรให้ตัวเองกันมั่งหรือยัง? หากว่ายัง
ก็เลือกทำอะไรให้คนอื่นไปก่อนละกัน เพื่อคนที่เรารักและรักเรา
แล้วก็ เพื่อสุขภาพช่องปากอันดีของเราด้วยนะจ๊ะ

ปล. วันที่ 5 ธันวา มีนัดกับหมอด้วยล่ะ แต่ไม่ได้นัดกินข้าวนะ นัดไปอุดฟัน -_-''
ปลล. นี่ถ้าไม่มีคนไล่ไปทำ ผมก็ไม่ไปหรอกครับ ยอมตายดีกว่าไปหาหมอฟัน -_-'''''
ปลลล. ผู้ช่วยพยาบาลทักผมตอนจ่ายเงินว่า ทางร้านรอพี่อยู่คนเดียวนี่ล่ะค่ะ เพราะว่าครอบครัวพี่เขามาทำกันหมดแล้ว เหลือก็แต่พี่นั่นแหล่ะยังไม่มาซักที วันนี้ดีใจจริงๆ ที่เจอตัวเป็นๆ ... (จะปลื้มดีมั้ยวะกู) -_-''''

16.12.52

life is free

ชีวิตมันฟรี เมื่ออยู่คนเดียว
ชีวิตมันดี เมื่อมีคนอยู่ข้างๆ

บางครั้ง
การอยู่หลังสุด โดยไม่มีคนให้กังวล
มันสบายใจเพราะไม่มีห่วง

บางที
การอยู่หลังสุด และมองไปข้างหน้า
ในที่ๆ มีเพื่อนอยู่
มันอุ่นใจเพราะมีคนร่วมทาง

แต่หลายคราว มันก็เหงาจับใจ
แม่ฮ่องสอน - แม่สะเรียง
2552

15.12.52

ขอบคุณความฝัน ที่ทำให้ฉันได้บิน

1 ปีเต็มกับความฝันที่จะบินไปกับสิ่งที่คิดไว้ ได้ทำแล้ว ได้ไปในที่ๆ คิดแล้ว ณ วันนี้คงถึงเวลาที่จะวาง จะชั่วคราวหรือตลอดไปก็ไม่แน่ใจ แต่มันถึงเวลาแล้วจริงๆ ดีใจที่สุดที่ได้ทำอย่างที่คิด และไม่คิดว่าจะได้ทำอะไรเยอะขนาดนี้มาก่อน วันต่อไปข้างหน้าก็ไม่รู้จะมีโอกาสได้ทำแบบนี้อีกครั้งหรือเปล่า...

แต่ขอบคุณความฝัน และเต็มใจทิ้งความสุขไว้ข้างหลัง
ขอบคุณที่ทำให้ฉันนั้นได้บิน

ฮาร์เลย์ เดวิดสัน
2551-2552
ขอบคุณอีกครั้ง
:)

11.12.52

เช้าวันใหม่

สวัสดีเดือนธันวา หน้าหนาวที่กำลังจะข้ามปีครับ (เหมือนเดิมคือกูสวัสดีใครวะ) เดือนนี้เจอสิ่งที่คาดคิดและไม่ได้คาดคิดหลายเรื่อง บางเรื่องที่คิดไว้ ก็ไม่ได้ทำอย่างที่ใจต้องการ บางเรื่องที่ไม่ได้คิดไว้ กลับได้ทำอย่างที่ใจต้องการ แต่ทุกอย่างมีเหตุผลและมีที่มาเสมอ

กำลังจะข้ามปี 2552 แล้ว
ขอให้ทุกอย่างที่เลือนลาง กลับสว่างสดใส
เหมือนฟ้าวันใหม่ที่แม่ฮ่องสอนแบบนี้ก็พอ

แม่ฮ่องสอน
4 ธ.ค. 52

23.11.52

แยมสะโลว


คิดถึงแยมจัง...
ปล. เจ้าของบล๊อกมันรั่วน่ะครับ อยู่ดีๆ ก็บ่นคิดถึงหมาแม่งซะยังงั้น

พฤศจิกายน 2552
อัสสัมชัญ บางนา

19.11.52

it's me :)


เคยบอกไว้ว่า ไม่ล่ะ...
เคยบอกไว้ว่า แค่นี้ล่ะพอ...
เคยบอกไว้ว่า ไม่เห็นจะต้อง...



ลืมๆ ไปซะครับไอ้คำพวกนั้นที่เคยลงใน blog
คันที่ 7 ในรอบ 1 ปีกว่าๆ
อนุญาตให้ถุยน้ำลายรดได้ไม่ว่ากัน

นี่ล่ะกรู แสรดดด 555+

12.11.52

เลือนลางและห่างไกล

แค่หวังไว้ซักวัน เท่านั้น ว่ามันคงชัดเจน
สว่าง และสดใสอย่างที่ใจคิดไว้
เพราะไม่มีเหตุผลอะไร ที่จะไม่ทำตาม
ในสิ่งที่มันเป็นเรื่องดีๆ

ทำเพื่อตัวเองเป็นเรื่องที่ดี...
แต่คงเป็นสิ่งที่ไม่มีความสุข
ถ้าไม่มีคนอยู่ข้างๆ ให้อุ่นใจ
มันเลือนลาง

และห่างไกลเข้าไปทุกที

พฤศจิกายน 2552

4.11.52

พฤศจิกาหน้าอะไรวะ

เปิดเทอมมาได้เกือบสองอาทิตย์ พี่ฝนเริ่มมีทีท่าว่าจะยอมหลีกทางให้กับน้องหนาวแต่โดยดี เช้าวันอากาศสดใส หมอกบางๆ เริ่มปกคลุมทั้งสองฝั่งท้องนาที่บางบ่อ ซึ่งเป็นเส้นทางที่เราใช้ในการขับรถมาทำงาน วันนี้อากาศดี (3 พย. 52) คิดไว้แต่เมื่อวานว่า หากตอนเช้าลมหนาวเข้าบ้านเมื่อไหร่ ได้เจอกรูกับไดน่าแน่นอน

แล้วก็เป็นดังที่หวังและตั้งใจไว้ เลยคว้าหมวกกันน๊อคและปลอกแขน กระโดดขึ้นหลังหมา...(ฮามั้ย)...ไม่ฮา งั้นขึ้นหลังไดน่าแล้วรีบบิดออกมาจากบ้านทันที เป็นการต้อนรับหน้าหนาวแบบทันควันไม่ให้มันตั้งตัว อากาศตอนเช้าเย็นสบายไร้มลภาวะเป็นพิษ

ขี่เรื่อยๆ ชิวๆ แบบแอ๊กๆ มาตลอดทาง ขี่มอเตอร์ไซค์หน้าหนาวนี่ใครไม่ลองก็คงไม่เข้าใจ ว่ามันสดชื่นและสนุกขนาดไหน ตัดสิบแปดล้อไปซักอย่างแล้วถนนเส้นคลองสวน-ลาดกระบังจะเป็นถนนที่น่าขี่มาก เพราะสองข้างทางมีแต่ท้องนาและบ่อปลา พาให้ใจระทวยย้วยอย่างยิ่ง

ทำงานด้วยความแฮปปี้จนกระทั่ง
สองโมงครึ่ง...
สามโมงครึ่ง...
สี่โมงครึ่ง...
ห้าโมงครึ่ง...

จุดจบของพฤศจิกา หน้าอะไรวะ ก็เป็นเช่นในภาพ
ฮ่วย... -_-'

2.11.52

เพียงไม่กี่เปอร์เซนต์ของความเป็นไปได้


ถึงแม้วันนี้เราจะเดินไปด้วยกัน แต่ก็มันคงเป็นเพียงไม่กี่เปอร์เซนต์ของความเป็นไปได้ในชีวิตจริง เพราะด้วยเงื่อนไขและหลายเหตุผล ที่บางครั้งก็มีเพียงเราที่เข้าใจ ในความเป็นไปได้ที่ดูเหมือนจะเลือนลาง กลับไม่ได้ทำให้หมดหวังหรือถอยหลังกลับแต่อย่่างใด ในทางกลับกัน ยิ่งรู้สึกว่าอบอุ่นหัวใจจนบอกไม่ถูก

เพราะบางครั้ง เพียงเท่านี้ก็ดีเกินพอสำหรับคนหนึ่งคนที่จะได้รับ แค่เพียงหวังจะได้เห็นร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะจากคนที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้นก็พอ การได้หรือไม่ได้อยู่ด้วยกัน ณ วันนี้ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญเท่ากับการที่มองเห็นคนข้างหน้าเรามีความสุข

เพราะถึงแม้เราจะไม่ได้เดินไปด้วยกัน แต่มันก็คงเป็นเพียงไม่กี่เปอร์เซนต์ ที่มีความสุขเกินพอแล้ว

สนามหลวง
พ.ย. 2552

29.10.52

มีความสุขดี...ที่มองไม่ค่อยเห็นทาง

ถ่ายเก็บไว้ตอนขึ้นเขาใหญ่จากทางปากช่อง เมื่อหลังวันหยุดปิยะมหาราชผ่านไปหนึ่งวัน ตื่นแต่เช้าหลังจากที่กระดกเหล้าเข้าไปจนตีหนึ่งของคืนวันที่ 23 กับเพื่อนอีก 3-4 คน ตามปรกติแล้วคงนอนรอตะวันตั้งฉากกับหลังคาบ้านแล้วถึงค่อยตื่น แต่นี้คงเป็นเพราะเขาใหญ่ที่ไปเมื่อไหร่ก็ไม่เคยเบื่อ ถึงทำให้เรากระดกตูดตื่นขึ้นมาแหกขี้ตาแต่เช้าได้

ได้ดีและได้เห็นหมอกบนภูเขาที่เช้าวันนั้นยังไร้ซึ่งผู้คนจอแจ คงมีแต่เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ harley davidson dyna super glide ของเราที่กระหึ่มอยู่เพียงคันเดียว หมอกลงจัดจนพื้นถนนเปียกไปด้วยน้ำ ทางข้างหน้ามองแทบไม่เห็นเส้นแบ่งถนน แต่ด้วยเป็นเรา เลยไม่คิดที่จะหันหลังกลับหรือจอดรอให้ฟ้าสว่างมากกว่านี้

เมื่อวานได้คุยกับพ่อและได้เล่าเรื่องราวให้กับท่านฟัง ว่าปีนี้มีอะไรที่เกิดกับเราบ้าง เล่าความคิดของเราให้พ่อฟังว่าเราคิดอย่างไรในเรื่องของการดำเนินชีวิตต่อไปในแบบของเรา พ่อเข้าใจดี แต่ยังคงมีคำทักท้วงและให้กลับไปคิดในแบบฉบับของพ่อที่ว่าน่าจะดี และน่าจะทำให้ชีวิตดำเนินไปได้อย่างราบและเรียบ แต่เราก็ยังเป็นเราอยู่วันยังค่ำ

คือมีความสุขดีที่มองไม่ค่อยเห็นทาง...

27.10.52

Love is all around


ในบางเวลาที่ใจต้องการใครซักคน...
คนเดียวที่เข้ามาทำให้ใจที่เคยได้สับสน
กระวนกระวายไม่เป็นอันทำอะไรและทุกทน
กลายมาเป็นสุขล้นกลายมาเป็นอีกคนได้ทันที

เพราะว่าคนเราในบางเวลาก็คงต้องเจอกับปัญหา
บางคนที่หาทางออกไม่ได้ก็เลยต้องกลายเป็นคนบ้า
แต่มีสิ่งหนึ่งที่พอจะทำให้ใจได้เยียวยา
เข้ามารักษาติดปีกให้ใจล่องลอยไปในนภา

รักยิ่งใหญ่ของใคร... ใครซักคนนึง
จะพอให้ใจได้ซึ้งตราตรึงไม่จางหายไป
ถ้าหากความรักยังอยู่รอบตัวเต็มทุกหัวใจ
โลกนี้ก็คงสดใสด้วยใจแห่งรักของเรา

ก็มีบางคนในบางเวลาที่เขาไม่มีใคร
เมื่อเธอต้องเดินไปเจอไม่รู้จะเดินไปทางไหน
คงทำได้เพียงแค่เตือนตัวเองว่าเค้าต้องทนได้
ต้องเจอจุดหมายและใจก็คงได้เจอกับรักจิง

ไม่ว่าจะพูดไม่ว่าใปก็คงต้องการจะมีบ้าง
ที่อยากเจอก็ลองอดใจแล้วคงมองเห็นไม่ยากนัก
ไม่นานก็คงประจัก.. สิ่งที่เรียกว่าความรัก
เลิกซักเลิกถาม ไปตามหามันด้วยใจตัวเองซักครั้ง

รักยิ่งใหญ่ของใคร... ใครซักคนนึง
จะพอให้ใจได้ซึ้งตราตรึงไม่จางหายไป
ถ้าหากความรักมีอยู่รอบตัวเต็มทุกหัวใจ
โลกนี้ก็คงสดใสด้วยใจแห่งรักของเรา

จิงๆในใจใครๆก็รู้และคงเข้าใจดี
อะไรที่ทำให้เรายังคงอยู่บนโลกใบนี้
อะไรที่ทำให้เราได้มีเวลาที่แสนดี
เพียงแค่ทำเท่านี้พูดอีกทีให้ดังให้ซึ้งใจ

ก็เส้นลึกๆแต่คนที่ทำให้โลกนี้มีความรัก
ก็อยากจะทิ้งจับมืออีกทีก็นี่หละความรัก
และขอให้รักที่อยู่บนโลกมีมากกว่าดวงดาว
Love is all around ยัวเฮิด Love is all around

รักยิ่งใหญ่ของใคร... ใครซักคนนึง
จะพอให้ใจได้ซึ้งตราตรึงไม่จางหายไป
ถ้าหากความรักยังอยู่รอบตัวเต็มทุกหัวใจ
โลกนี้ก็คงสดใสด้วยใจแห่งรักของเรา

นั้นมันก็คือรักยิ่งใหญ่ของใคร... ใครซักคนนึง
จะพอให้ใจได้ซึ้งตราตรึงไม่จางหายไป
ถ้าหากความรักยังอยู่รอบตัวเต็มทุกหัวใจ
โลกนี้ก็คงสดใสด้วยใจแห่งรักของเรา
เขาใหญ่ - ปากช่อง
24 ตุลาคม 2552
:)

20.10.52

no more. i'm yours


Jason Mraz - I'm Yours
http://www.youtube.com/watch?v=LHnJGXwr-HU

Well, you done done me and you bet I felt it
I tried to be chill but your so hot that I melted
I fell right through the cracks, now I'm tryin to get back
before the cool done run out I'll be givin it my best test
and nothin's gonna stop me but divine intervention
I reckon it's again my turn to win some or learn some

But I won't hesitate no more,
no more, it cannot wait
I'm yours

Well open up your mind and see like me
open up your plans and damn you're free
look into your heart and you'll find love love love love
listen to the music of the moment people dance and sing
We're just one big family
And it's our godforsaken right to be loved loved loved loved loved

So, i won't hesitate no more,
no more, it cannot wait i'm sure
there's no need to complicate our time is short
this is our fate
I'm yours

I've been spendin' way too long checkin' my tongue in the mirror
and bendin' over backwards just to try to see it clearer
But my breath fogged up the glass
and so I drew a new face and I laughed
I guess what I'd be sayin' is there ain't no better reason
to rid yourself of vanities and just go with the seasons
it's what we aim to do
our name is our virtue

But I won't hesitate no more,
no more it cannot wait
I'm yours

Well open up your mind and see like me
open up your plans and damn you're free
look into your heart and you will find that the sky is yours

so please don't, please don't, please don't,
there's no need to complicate,
Cause our time is short
This, this, this is our fate,
I'm yours

สวัสดีเดือนตุลาคม 2552
"วันฝนพรำ"

14.10.52

โล่ง ว่าง ไม่ต่างจากความเหงา

ในเมื่อเลือกแล้วว่าทางนี้เราคงจะเดินต่อไปอย่างสบายใจ ต่อให้ข้างหน้าไม่มีใคร โล่งและว่าง หรือเงียบเหงาแค่ไหน ก็จะเดินต่อไปแบบไม่หันหลังกลับมามอง แต่ไม่ได้รู้สึกว่าที่ผ่านมานั้นมันเลวร้าย เพียงแต่อึดอัดกับสิ่งที่ได้ทำลงไปเพียงเพราะคำว่า "หน้าที่" แต่วันนี้ก็ได้ผ่านมาแล้ว ก้าวข้ามมาแล้ว

ต่อให้โล่งและว่างหรือเงียบเหงาแค่ไหน
ก็จะเดินต่อไปแบบไม่หันหลังกลับมามอง
ถึงแม้มันจะไม่ต่างจากความเหงา...ซักเท่าไหร่ก็ตาม

เอแบค 2552

6.10.52

บ า ง ค รั้ ง ... มี เ พี ย ง เ ร า ที่ เ ข้ า ใ จ


ย่างเข้าเดือนตุลาคมมาได้อาทิตย์กว่าๆ ฟ้าและฝนยังคงทำหน้าที่ ที่เหมือนจะเกินฤดูกาลไปซักนิด ฝนยังคงตกแบบไม่ลืมหูลืมตาแบบชนิดที่ว่า ปีหน้าไม่รู้ว่ามันจะยังคงตกได้หนักเท่านี้อีกหรือเปล่า อาทิตย์ที่ผ่านมาได้ไปเที่ยวปากช่องกับเพื่อนๆ ที่ขี่ Harley ด้วยกัน ทั้งจากกรุงเทพ ระยอง จันทบุรี ตราด ร่วมๆ 30 คัน (ความจริงไม่ได้แบ่งแยก แค่ส่วนใหญ่คนที่มาเสือกมีแต่ harley) -_-'

เป็นการนัดกันขี่เที่ยวตามประสาคนอยากขี่รถ ไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากความอยากขี่ อยากไปกับเพื่อนและคนที่คุยภาษาเดียวกัน ถึงแม้คนอื่นจะมองว่า พวกนี้มันบ้า ขี้แอ๊ก ร้อนก็ร้อน ฝนก็ตก ฝนตกมันก็ยังขี่กันได้ไม่ยอมหยุด รถมีขับสบายๆ ก็ไม่เอา...เปล่าประโยชน์ที่จะอธิบายว่าเพราะอะไร หากคนเหล่านั้นไม่เข้าใจความเป็นเรา และความคิดของเราจริงๆ

หากสงสัยว่า

ขี่รถตากฝนมันสนุกตรงไหน?
ขี่รถตากแดดมันสนุกตรงไหน?
มันก็เปล่าประโยชน์ที่จะอธิบายว่าเพราะอะไร?

แต่หากจะย้อนถามกลับไปว่า ทำตามใจตัวเองมันผิดตรงไหน?
มันก็เปล่าประโยชน์ที่จะฟังคำอธิบายว่าเพราะอะไร? อีกเช่นกัน
เพราะบางครั้งก็มีเพียงเราที่เข้าใจ

ปากช่อง
4 ตุลาคม 2552

1.10.52

นั บ ห นึ่ ง ใ ห ม่ ใ น เ ดื อ น ตุ ล า

สวัสดีเดือนตุลาคม 2552 ครับ (เหมือนเดิม...คือกูสวัสดีใครวะ) ใครก็ได้ละกันที่พลัดหลงเข้ามาอ่านบล็อครั่วๆ ของผมเข้าให้แล้ว สภาพอากาศของต้นเดือนตุลาคม ยังคงมีฝนปกคลุมทั่วทุกพื้นที่ (กรมอุตุมาเอง) ฝนตกแบบไม่ลืมหูลืมตามาเป็นเวลาสามเดือนกว่าแล้ว แว่วมาว่ามันจะยังคงตกต่อไปอีกนาน

เริ่มต้นเดือนใหม่ในปีนี้ ชีวิตเรามีเรื่องสำคัญที่หมายถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้น คือการตัดสินใจทำอะไรอย่างที่ใจคิดมาเป็นเวลา 5 ปี ได้เสียที รู้สึกเบา และโล่งสบายมากกว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว อะไรๆ ที่เคยแบกรับไว้ด้วยคำว่าหน้าที่ มาวันนี้ไม่มีอีกแล้ว ปล่อยมือแล้วให้มันลอยขึ้นฟ้าไปหมดทุกสิ่ง

ขอโทษที่ไม่ได้ทำอะไรอย่างที่สัญญากับแม่ไว้ในใจ ผมทำได้แต่ไม่ทั้งหมด แต่คิดว่าทำดีที่สุดแล้วครับ มันได้เท่านี้จริงๆ มากกว่านี้ก็คงเหมือนการหลอกตัวเองไปเรื่อยๆ ตัวเราไม่สำคัญเท่าหลอกคนอื่นให้เขามีความสุข ทั้งๆ ที่ตัวเองนั่งอยู่บนความทุกข์

ความทุกข์ที่แม่เคยสอนไว้ว่าให้ละ ให้วางมันบ้าง ก็พยายามทำนะครับ แต่ทำได้เท่านี้แหล่ะ นับแต่นี้ก็ได้แต่หวังอย่างเดียวว่า หลังฝนคงมีความสดใสให้กับเราบ้าง เพราะว่าได้หลุดพ้นพันธะที่มันมัดตัวไปได้แล้ว จากนี้ก็คงเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ได้อย่างสบายใจเสียที

มีหรือไม่มีใครไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้วล่ะ..

สุวรรณภูมิ 2552

15.9.52

ลื ม คิ ด ถึ ง หั ว ใ จ ค น ใ ก ล้ ตั ว

บางครั้งเรามองแต่คนไกลตัว และห่วงว่าเขาเหล่านั้นจะมองเราและคนใกล้ตัวเราในลักษณะไหน ดีหรือร้าย? จนลืมคิดถึงความรู้สึกของคนใกล้ตัว ว่าบางที เขาก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่า ความเข้าใจระหว่างเรา 2 คน โดยที่เขาเองก็ไม่ได้สนใจ คนไกลตัว มากไปกว่าเราเท่าไหร่นัก

ลืมไปว่า รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนที่ผมรัก มีค่ามากกว่าความสุขของเราเพียงใด

ปล. ช่วงนี้เมนส์ไม่มา เลยมีเรื่องให้คิดเยอะ
โดยลืมไปเหมือนกันว่า เมื่อก่อนมึงก็ไม่ได้คิดอะไรขนาดนี้ วันๆ เอาแต่บ้าๆ บอๆ ไปตามเรื่อง
ซึ่งมันก็มีความสุขดี ถ้าได้เห็นรอยยิ้มของคนที่เรารัก

มิใช่เหรอวะ ?

ห ลั ง ฝ น พ ร ำ


ในขณะที่รอบๆ ตัวมีแต่ความมืด
เชื่อว่าอีกไม่นานมันก็จะสว่าง
และสดใส

ในเวลาที่ความคิดส่วนตัวยังดูอึมครึม
ความรู้สึกกลับบอกว่า ไม่นานมันก็จะสว่าง
และสดใส

ถ้าบนทางข้างหน้านั้นชัดเจนและมีพื้นที่ว่างพอ
ก็คงได้เจอสิ่งที่หายมานาน...ซักที

14.9.52

บ น ท า ง ข้ า ง ห น้ า

หนทางข้างหน้าที่ว่าง โล่ง และเงียบสงบ คงจะทำให้พบความสุขเล็กๆ ที่ค้นหามานาน หากแต่เพียงว่ามันยังคงคลุมเครือและไม่ชัดเจน หมอกบางๆ ยังไม่จางลง ควันสีเทาบนถนนยังคงปกคลุมอยู่ ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปต่อดี หรือจะหยุดรอให้มันสะดวก และชัดเจนมากกว่านี้ 2 เดือนที่ผ่านมา เกิดความรู้สึกที่ดีๆ ขึ้นอย่างมากมาย บางครั้งมั่นใจและมั่นใจว่า นี่คงใช่อะไรๆ ที่เราหามานาน แต่ในบางจังหวะและบางอารมณ์ของคนเช่นเรา มันก็อดคิดไม่ได้อยู่ดีว่า

...จะไปต่อดี หรือหยุดรอให้มันสะดวกและชัดเจนมากกว่านี้กันแน่ ???

ครบรอบ 2 เดือน
17 กันยา 2552
bypass road, rayong

11.9.52

ก ร ะ ตุ ก ห า ง เ หี้ ย


เมื่อวานเมาแฮงค์จากงานปาร์ตี้ทาสีบ้าน (เพ้นท์เฮาส์) ก็เลยลางานแม่งซะ 1 วันครับ (ครับกะใครวะ??) นอนอยู่กะบ้านเฉยๆ เพื่อชดเชยพลังงานที่เสียไปจากคืนวันก่อน นอนหลับไปได้ซักครึ่งชั่วโมงในห้องนอนส่วนตัว เสียงโทรศัพท์ก็ดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมกับปลายสายลั่นเข้ามาในหูว่า "อยู่บ้านเหรอ งั้นลงมาช่วยยกของข้างล่างหน่อย ช่างมาทำประตูไสลด์กั้นห้อง" เสียงแม่ตะโกน (ใช่ครับ ตะโกน) ในโทรศัพท์มาว่ายังงั้น ก็เลยกระดกตูดลุกจากเตียงแบบมึนๆ ลงมาช่วยยกของ

ช่างมาทำประตูกั้นกลางบ้านเพื่อแทนผ้าม่าน ที่ฝุ่นเริ่มเกาะ ได้ชั่วโมงกว่า ก็ได้เวลาเล่นเนท เปิดดูเว็บฮาร์เลย์ได้พักนึงแม่ก็ตะโกนข้ามหัวมาว่า "รถนะเพลาๆ บ้าง จะซื้อทำไมนัก เงินทองมีไว้ก็เก็บมัั่ง โตแล้ว" เท่านั้นก็ร่ายยาววววววววววววววววววววววววววววววววววว

นั่งสะอึกกับคำของแม่อยู่พักใหญ่ เพราะได้คิดแว่บนึงว่า 2 ปีที่ผ่านมาเราเองใช้เงินแบบระยำมาก มีไว้ใช้ก็ใช้เข้าไป ไม่ได้สนใจอะไรว่ามันจะเกิดในภายหน้า เงินเก็บที่เคยมีครึ่งแสน แล่นผ่านหน้าเหมือนรถแข่งแดร็ก เร็วหายไปในสายลม ทั้งกลม แล้วก็แบน...อะไรที่เรียกว่าชีวิต กันวะ??? เรามีคำถามในหัวสมองขึ้นมาฉับพลัน แล้วก็สะบัดตูดไปธนาคารเพื่อเก็บเงิน ณ แต่วินาทีนี้ ???!@#%@%$

ลำพังแค่เพียงแม่พูดคนเดียว ก็คงทู่ซี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะชินกับคำที่แม่ชอบแซะเราเป็นนิจอยู่แล้ว
แต่นี่ มีคนอีก 1 คน ที่พิเศษ...
มากระตุกหางเหี้ย ให้หันหลังกลับเข้าฝั่ง
ยามที่มันกำลังจะหันหน้าออกทะเล (เหี้ยที่ไหนอยู่ในทะเลวะ)

ขอบคุณนะที่เป็นห่วง
ขอบคุณนะที่พูดแบบนั้น
ขอบคุณนะที่เข้าใจและหวังดี

ปล. เขินว่ะ เหี้ยเอ้ย
ปลล. 11-09-09 ก็เป็นวันที่ดีๆ เท่ากับวันที่ 09-09-09 เหมือนกันนะโว้ย

7.9.52

ห นึ่ ง ค ว า ม ห ม า ย แ ต่ ห ล า ย ค ว า ม คิ ด


ผมเก็บภาพนี้ไว้จากแพวัดแหลม เพราะว่าชอบในโทนสีที่ใกล้เคียงกันของผิวเรือและผืนน้ำ รวมทั้งความสงบนิ่งของกระแสน้ำ ความเก่าที่เล่าเรื่องราวของเรือแจวสมัยโบราณได้เป็นอย่างดี นั่นเป็นความชอบส่วนตัว ที่ไม่ได้คิดอะไรเกินกว่าที่มือกดชัตเตอร์ (มือถือ)

บางครั้งเราคิดเพียงแค่นิดเดียว และไม่ได้ต้องต่อยอดความคิดให้ยาวไกลไปอีก แต่คนรอบๆ กลับมองไปอีกรูปแบบนึง ซึ่งต่างจากที่เราคิดไปคนละทาง มันห้ามกันไม่ได้

บ้างก็ว่ารูปนี้เรือเอียง สีของฉากกลืนไปกับวัตถุ ทำให้ไม่มีจุดเด่น หรือหาคอนทราสไม่ได้ อะไรก็ตามแต่ เราก็ยังเป็นเราอยู่วันยังค่ำ คือต้องการทำเพื่อนสนองความคิดและจิตใต้สำนึกของตัวเองเพียงเท่านั้น และเมื่อได้คิดและลงมือทำแล้ว ก็คิดเพียงเท่านั้น ทำเพียงเท่่านั้น เพื่อให้ก้อนความคิดมันละลายไปกับสิ่งที่เราได้ทำ

เคยเอ่ยกับคนๆ นึงไว้ว่า ไม่ได้ต้องการอะไรเหมือนที่เคยได้ เพราะหมดความต้องการแล้ว ก็หมายความว่าหมดจริงๆ ไม่สามารถย้อนกลับมานั่งนับหนึ่งใหม่ได้ ก็ได้ทำตามอย่างที่พูดและคิดแล้ว และมันจะไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น... ได้สัญญาอะไรไว้กับคนๆ นึง ก็จะทำตามสัญญาที่ให้ไว้ แต่จะคิดต่อกันไปอย่างไร คงห้ามกันไม่ได้

ในเรื่องของความคิดของคนหนึ่งคน
หลายคนจะตีความกันไปกี่ความหมาย หรือได้กี่ใจความก็ไม่เป็นไร
เราแค่หมายความ ตามที่เราคิดเพียงเท่านั้น

1.9.52

ม ะ เ ร็ ง ข อ ง แ ม่ ฉั น


ขึ้นต้นได้อย่างน่าใจหายจริงๆ สำหรับคำว่า มะเร็ง โรคที่หลายคนเป็น และหลายๆ คนไม่อยากที่จะเป็น (แต่มันเลือกไม่ได้ว่ะ) และมันยิ่งน่าใจหายเข้าไปอีก เมื่อคำว่ามะเร็ง เสือกทะลึ่งมานำหน้าคำว่าของแม่ฉัน หมาย ความตามนั้นนั่นล่ะครับ คือแม่ผมเป็นมะเร็ง...

มะเร็งในที่นี้ ไม่ได้หมายถึง มาแค่เล็ง แต่ไม่ได้ยิงนะครับ (ทำเป็นขำไป) แต่ผมกำลังหมายถึง กลุ่มของโรคที่เกิดเนื่องจากเซลล์ของร่างกายมีความผิดปกติที่ DNA หรือสารพันธุกรรม ส่งผลให้เซลล์มีการเจริญเติบโตมีการแบ่งตัวเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ รวดเร็วและมากกว่าปกติ ดังนั้น จึงอาจทำให้เกิดก้อนเนื้อผิดปกติ และในที่สุดก็จะทำให้เกิดการตายของเซลล์ในก้อนเนื้อนั้น เนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยง...

ซึ่ง เผอิ๊นนนน มาเกิดกับแม่ผมในรอบอายุ 65 ปีของแกพอดิบพอดี ราวกับว่าฟ้าได้ submit แล้ว ว่าคนนี้น่ะ เอามะเร็งไปแดก (ทำเป็นขำไป) เพราะงั้นก็จงเป็นมะเร็งซะ จะว่าโชคดีหรือว่าโชคไม่ดีก็ไม่รู้ครับ เพราะไอ้มะเร็งของแม่ผม มันดันไปเกิดอยู่บนต้นขาซ้าย ในรูปแบบของก้อนไขมันส่วนเกินที่โตวันโตคืนมาเป็นเวลา 20 กว่าปี ช่วงหลังมานี่มันคงกินอิ่มนอนหลับ โตเอาอ้วนเอา ทำให้ต้นขาข้างซ้ายของแม่ผมมีขนาดใหญ่กว่าปรกติ

ที่ว่าใหญ่กว่าปรกติเนี่ย ให้นึกภาพก้อนไขมันส่วนเกิน ขนาดความยาวจากหัว ถึงหาง 1.5 ฟุต ลำตัวกว้าง .5 ฟุต และน้ำหนักที่ชั่งเมื่อเช้าวันนั้น (วันที่หมอผ่ามันออกมา) ได้ปริมาตรสุทธิ 2.4 กิโลกรัมอย่างเป็นทางการถ้าเทียบกับน้ำหนักเด็กแรกเกิดนี่ถือว่าน้อยจัดทีเดียวละครับ อาจจะต้องเข้าตู้อบหลายวัน แต่นี่เผอิญมันเสือกเป็นมะเร็งน่ะ มันก็เลยไม่น้อย จนต้องเดือดร้อนให้หมอที่โรงพยาบาลศิริราช หั่นมันออกซะ

หั่น ออกไปแล้วพร้อมกับสบายใจว่าไปซะได้ก็ดี ไอ้มะเร็งนรก มาเกาะแม่กูทำไมครับ ผลการผ่าตัดหลังจากนอนศริราช 2 อาทิตย์ ผลการพิสูจน์ก็ออกมาครับ ปรากฏว่าก้อนไขมันที่มีเศษชิ้นเนื้อต้นขาของแม่ติดไปด้วยนั่นเป็นเนื้อร้าย เรียกง่ายๆ ว่ามะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน...

แสรดดดด ตัวจากไปแล้วยังทะลึ่งฝากทายาทไว้อีกแหน่ะ ว่าแล้วพ่อกับแม่ รวมทั้งที่บ้านก็เซ็งครับ ว่าแม่เป็นมะเร็งอีกโรคนึงแล้วเหรอวะ? เพราะแม่ผมเป็นสมาชิกตลอดชีพของโรคภูมิแพ้มาก่อนหน้านั้นแล้วครับ (ราวๆ ซัก 20 กว่าปีเห็นจะได้) ใครไม่เคยเจอ แม่นี่ล่ะเจอมา เป็นโรคน่ากลัวที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในโลกใบนี้แต่นี่มาเป็นสมาชิกใหม่ของโรงมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนเข้าไปอีก ถึงกับฮากันไม่ไหวเลยทีเดียว แต่ก็ยังดีที่มันไม่ได้ร้ายแรงเหมือนกับมะเร็งในส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ที่ส่วนใหญ่เป็นแล้วก็เตรียมบอกลาโลกกันได้เลย

มะเร็งของแม่ได้สร้างความลำบากกาย หรือลำบากใจให้กับตัวเขาเองซักเท่าไหร่นัก อาจเป็นเพราะว่าแกเจอกับโรคภูมิแพ้และเป็นหนักมาตลอดชีวิตแล้วก็ว่าได้มะเร็งมันก็เลยดูเด็กๆ ไป การดูแล และระวัง มันก็เป็นแค่การที่ต้องเข้าตรวจร่างกายที่ศริริราชบ่อยครั้งขึ้น เพื่อตามติดสถานการณ์ว่าไอ้เชื้อมะเร็งมันจะลามไปที่ไหนบ้างหรือเปล่าถ้าไม่ลามก็ถือว่าโชคดี แต่ถ้ามันเกิดลามขึ้นมาก็ค่อยว่ากัน

อ่านดูเหมือนแม่ผมไม่ได้ยี่หระกับโรคนี้เท่าที่ควรเลยนะครับ
แต่มะเร็งไม่ได้น่ากลัวเลย รู้ไว้ซะ เพราะคนเราเต็มที่ก็แค่ตาย
ที่ผ่านมาก็เจอความตายมาแล้ว 3 รอบ ถ้าเจออีกรอบก็ไม่เห็นแปลก
แม่ผมบอกแบบนั้น

ผมเชื่อใจของแม่ผมนะครับ ว่าแกมีความคิดแบบนั้นจริงๆ และตลอดมาแม่มีทัศนคติกับโรคภัยไข้เจ็บแบบนี้ตลอด คือมันห้ามให้เกิดโรคกับเราไม่ได้หรอก แต่เราห้ามใจให้ไม่คิดป่วยตามโรคได้ ในวงเล็บ ถ้าหัวใจแข็งแรงพอ

ขอให้แม่มีสุขภาพแข็งแรง มีกำลังใจด่าผมนานๆ ละกันครับ
ผมเห็นแม่ผ่านด่านชีวิต Level ระดับเทพมาแล้ว 3 ครั้ง
อะไรมันจะเกิดขึ้นกับแม่ในครั้งหน้าอีกที มีผมอีกคนที่จะไม่ยี่หระกับคำว่าเสียใจเป็นครั้งที่ 4
เพราะว่าแม่ผมได้บรรลุถึงคำว่า "ความสุขในชีวิต" มาแล้วน่ะครับ

ขอให้สุขภาพของคนที่รัก ของทุกคน แข็งแรง
และที่สำคัญ ในวงเล็บ (ด้วยหัวใจที่แข็งแรง)

ปล. ใครสนใจ (ผมหมายถึงสนใจศึกษาเกี่ยวกับโรคนี้นะครับ ไม่ได้สนใจที่จะเป็นมะเร็ง)
หรือว่าคนใกล้ตัวของใครกำลังเป็นโรคนี้อยู่ ให้เข้าไปอ่าน ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคมะเร็ง
ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติเขาได้เลยครับ จะได้ทำความรู้จักกับโรคนี้ซะ ว่ามันเป็นอย่างไร
และมีวิธีการดูแลรักษา หรือป้องกันยังไง

ขอบคุณครับ

19.8.52

ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ต า ม สั น ด า น


การได้ขี่บูเอล คือการได้สนองความต้องการส่วนตัวของผม
หนึ่งคือ มอเตอร์ไซค์ที่ใช้เครื่องยนต์ Harley Davidson
สองคือ รูปทรงที่เป็นแบบ naked
และสามคือ ความต้องการที่ไม่อยากเหมือนคนอื่น

สามอย่างนี่รวมกันเป็นผม
เอาน้ำมาล้างกรองให้เหลือแต่กากจะมีรูปร่างแปลกๆ
ที่คนหลายคนเรียกกันว่า "สันดาน" ครับ

ขอบคุณ 1 เดือนแห่งสันดาน ที่ทำให้เจอตัวเป็นๆ ของกูซักทีครับ
แล้วจะขี่แม่งให้ล้อลากเลย ไม่เปลี่ยนตามสันดานแม่งละ


ปล. เขียนบล๊อคนี้ได้สองเดือน ผมก็กลับไปซื้อ Dyna Super Glide ต่อจากเพื่อนครับ
เลวจริงๆ กู แล้วบอกจะไม่เปลี่ยน 555+

5.8.52

เ ว ล า ที่ เ ป ลี่ ย น ไ ป ?

สวัสดีเดือนสิงหาคมครับ เริ่มต้นเดือนมาสองอาทิตย์ ชีวิตได้เจอกับอะไรมากมาย อย่างที่ไม่เคยคิดว่า แค่ 2 อาทิตย์เพียงเท่านี้ ทำให้เราได้คิดอะไรได้มากเกินความคาดหมาย ...

อย่างที่หนึ่งคือการตัดสินใจที่จะดึงตัวเองออกมาจาก หน้าที่ ที่เต็มใจทำให้คนๆ นึงมาเป็นเวลา 5 ปีเต็ม ณ วันนี้บอกกับตัวเองว่า พอแล้ว ไม่ได้หมายความว่าหมดแรง หรือไม่มีกำลังใจจะทำต่อ หากแต่เราเริ่มรู้สึกว่า การทำอะไรแบบที่ใจไม่ได้ต้องการนั้น มันเป็นสิ่งที่ทำให้ทรมานชิบหาย ...

อย่างที่สองคือการได้เจอกับสิ่งที่ตัวเองหายมานาน ถึงแม้เวลามันจะผ่านมานานเหลือเกิน จนสมองแทบจะเลือนลางไปแล้วว่า ความต้องการในแบบนี้ของเรา ล่าสุด มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ? และมันหายไปนานเท่าไหร่แล้ว รู้สึกดีที่มันเกิดขึ้น หากแต่ว่ามันยังคงมีความไม่ราบเรียบเพียงเท่านั้นเอง หากมันลงล็อค และจังหวะพอดีกัน คงไม่คิดอะไรมากเท่านี้ ...

อย่างสุดท้ายคือความคิดของตัวเองที่มันเริ่มวาง ในอะไรหลายๆ อย่างที่เคยกำมันไว้อย่างแน่น ด้วยความเป็นห่วงว่าถ้าปล่อยไปแล้ว อาจจะเป็นอย่างนั้น หรืออาจจะแบบนี้ก็เป็นได้ ณ วันนี้ เวลานี้ เป็นอย่างไรก็เป็น หากกำไว้แล้วอะไรๆ มันไม่ดีตามที่ใจคิด ปล่อยไปเสียยังดีกว่า

เวลาเดินตามหน้าที่เสมอๆ ครับ
คนต่างหากที่รู้สึกว่า เวลามันเปลี่ยนไปจากเดิม
ความรู้สึกของคนเรา ไม่ได้เดินตามเวลาหรอก
อย่างน้อยก็ผมหนึ่งคน


27.7.52

สั บ ส น และ สั บ ส น

ในค่ำคืนของกรุงเทพ ฝนตก รถติด ผู้คนมากกมายเดินและวิ่งกันบนท้องถนนอย่างสับสนอลหม่าน ผมหรือใครกันที่มันกำลังสับสน ในชีวิตที่หลงหรือเลือกหนทางเดินอยู่ในขณะนี้ ครั้งนึงเคยเลือกที่จะเดินตามคำที่แม่บอกไว้ ว่าทางนี้ดี ทางนี้ถูก ด้วยจังหวะชีวิตในตอนนั้น ที่ใครเจอแบบเดียวกันก็คงปฏิเสธไม่ลง และคงไม่คิดที่จะบอกว่า "ไม่"

เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน จะเรียกว่าความอดทนก็ไม่ใกล้เคียง อยากเพียงบอกว่า ณ ตอนนี้กูเหนื่อยชิบหายกับชีวิตที่ต้องเดินตามหน้าที่ อันจะต้องรับผิดชอบไปอีกนาน และอีกนานเท่าไหร่

คำถามจากคนใกล้ตัวและไกลตัว เป็นคำตอบที่ใกล้เคียงกัน หากแต่ไกลจากความคิดของตัวเองมากนัก ไม่รู้จะอธิบายเป็นภาษาอย่างไร ให้เขาได้เข้าใจกันว่า ตอนนี้ไม่ใช่กูแล้ว รู้บ้างไหม อะไรที่เคยได้บอกไปว่าทำได้ ทำให้ หรือเต็มใจทำ นั่นเริ่มจะจางหายไปกับกาลเวลา ผิดไหมถ้าจะบอกว่า ไม่ไหวแล้ว กับการทำอะไรให้คนอื่นมีความสุข บล็อกรั่วก็ยังคงรั่วต่อไป มีหลายคนบอกว่าเราเข้าใจยาก ยากและยากมากๆ ก็เลยอยากจะบ่นให้ตนเองอ่านในคราวหน้าว่า เออ มึงนั่นล่ะเข้าใจยากจริงๆ

นานแล้วเคยต้องการสิ่งนึง ที่ขวนขวายอยากได้มานาน ในตอนนี้สิ่งนั้นเริ่มไกลจากตนเองมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการ กลับใกล้เข้ามาอยู่ทุกขณะจิต (หัดกระแดะใช้คำ) จะทำอย่างไรให้มันเป็นปรกติเหมือนเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ได้แต่นึกอยู่ตลอดเวลาว่า เอาน่ะ ใจเย็นสิมึง...

หน้าที่และความรัก สองคำนี้มาพร้อมกัน หากแต่ว่าใครบริหารและมีจังหวะที่ดี นั่นคงมีความสุข ใครมีหน้าที่ทำเพื่อความรัก นั่นเป็นสุขเหลือเกิน หากแต่ใครมีหน้าที่แต่ไม่ได้ทำเพื่อความรัก คงทุกข์หัวใจไปนาน ความรักของผมคือความว่างเปล่า คงเหลือแต่เพียงหน้าที่ ที่จะต้องทำ และคำสัญญาที่ให้ไว้กับหญิงที่รักหนึ่งคน และไม่เคยคิดจะกบฏต่อคำสัญญานั้น ถึงแม้สมองจะสั่งงานว่า กูกำลังเออเร่อร์...

สับสนใช่ไหมหากใครหลงเข้ามาอ่าน
อย่าตกใจไป
เพราะเจ้าของบล็อคมันกำลังเออเร่อร์ว่ะ

23.7.52

ห้าวไปเลยนะมึง


บทจะห้าวเขียนบล็อก ก็เล่นมันซะติดๆ กัน บทจะขี้เกียจก็ปล่อยให้ร้างเป็นอาทิตย์ ธรรมดาของคนรั่วๆ อย่างผมครับ เป็็นประจำเหมือนการแปรงฟัน นั่งรอรถอยู่เมื่อไหร่จะมา เสี้ยนขี่จนน้ำเต็มหูไปหมดแล้ว นั่งมองเขาออกทริปกันอย่างไม่เป็นทางการแล้วได้แต่อยากแบบไม่รู้จุดหมาย

รูปนี้ผมจอดหาที่กดภาพเผื่อเก็บบันทึกไว้ ตอนขึ้นน้ำหนาวเมื่อทริปเพชรบูรณ์ ข้างหน้าเป็นถนนกว้างใหญ่ และยาวสุดลูกหูลูกตา มันรู้สึกดีนะเวลาเราได้เห็นทางสวยๆ แบบนี้ ผมรอให้รถเพื่อนผ่านไปข้างหน้า และรอให้ถนนว่างที่สุด แล้วค่อยเก็บภาพ นานเหมือนกันที่อยู่ตรงนั้น โล่ง และโปร่งมาก

เสร็จจากบันทึกภาพแล้วก็ไล่ตามเพื่อนต่อครับ นานชิบหายกว่าจะไล่พวกมันทันวิ่งกันไม่บันยะบันยัง ไม่เห็นใจคนรั้งท้ายเช่นกูมั่งเลย -_-''

หมดเท่านี้ล่ะครับที่ต้องการเล่า
ปล. บูเอลเมื่อไหร่จะมาวะ จะลงแดงแร้ว วว


เ รื่ อ ง บ า ง เ รื่ อ ง...


หลายคน และหลายครั้ง น่าจะมีใครคิดแบบนี้อยู่ แล้วก็ทำแบบนี้อยู่เช่นกัน ผมก็เป็นหนึ่งในหลายๆ คน ที่คิดและบางครั้งก็กำลังทำแบบนี้อยู่ จะถามว่าอันไหนเป็นจริงที่สุดในโลกทัศน์ของคุณ เดาว่าคงตอบกันไม่ถูก แต่ถ้าจะให้เฉียดและใกล้เคียงที่สุด ก็เห็นจะต้องตอบว่า ทั้ง 4 ข้อนั่นล่ะที่ทำกัน (เนอะ)

บล็อกรั่วๆ หาความมั่วได้ทุกที่ โปรดอย่าถือสาหรือหาความ
ขอให้เข้าใจ แล้วไปคิดเอาเอง ว่าคุณเป็นแบบไหนใน 4 ข้อที่ว่ามา มากที่สุด

15.7.52

อยากได้ใคร่มี ที่น่าจะดีขึ้นกว่าเดิม


สวัสดีอีกครั้งครับ ใครที่เคยหลงเข้ามาอ่านบล็อกรั่วๆ ของผม (แน่นอน คงไม่มี..) น่าจะเคยได้เปิดอ่านบันทึกที่ผมเคยได้ลงไว้ในหัวข้ออยากได้ใคร่มีที่ผมได้เคยเขียนไว้ในช่วงแรกๆ ของบล็อก ที่ว่าด้วยความอยากส่วนตัวของผม ไม่เกี่ยวกับอารมณ์ทางเพศ แต่เน้นไปในทางเรื่องของกูซะมากกว่า ความอยากในบันทึกแรกของผมก็เรื่อง Harley Davidson นั่นล่ะครับ คือพยายามหาทางทุกรูที่จะทำให้กูมีไอ้รถยี่ห้อนี้มาขี่ให้จงได้ แล้วก็ได้เป็นเจ้าของมันในที่สุด หลังจากก่อนหน้านี้ขี่มา 2 ยี่ห้อแล้ว...ก็ยังไม่พอใจ ขายทิ้งซื้อใหม่ๆๆๆ จนได้ฮาร์เลย์มาขี่ในที่สุด

เรื่องเงินไม่ต้องพูดครับ...
เพราะตูดผมบานจนไม่รู้จะหุบได้หรือเปล่า ณ ตอนนี้ (- -')

ความอยากในเรื่องที่สองของผมก็คือ กีฬา BBGUN ซึ่งจริงๆ แล้วผมเองไม่ได้เป็นคนเริ่ม แค่ตามเพื่อนไปดู แล้วกูก็เลยเสียตังค์ (เยอะ) อีกจนได้ ทั้งเรื่องค่าเล่น ค่าของแต่งตัว ค่าของแต่งปืน โอย สารพัดจะบรรยายให้โดนแม่ด่าซะเปล่าๆ ผมคลุกตัวเองกับกีฬาชนิดนี้เป็นเวลา 3 ปี

เรื่องเงินไม่ต้องพูดครับ...
เพราะตูดผมบานจนไม่รู้จะหุบได้หรือเปล่า ณ ตอนนี้อีกเช่นกัน (- -''')

นั่นเป็นสองเรื่องที่เป็นแค่ขนมขบเคี้ยวเล็กๆ ครับ มาเรื่องที่สามอันเป็นเรื่องล่าสุดกันดีกว่า ถึงแม้จะเป็นเรื่องใหม่แต่เค้าโครงเรื่องก็เดิมๆ ครับ โดยเริ่มมาจากการได้ขี่ Harley Davidson นั่นเองแหล่ะ ได้ขี่ Sportster ปี 2006 แล้วก็ยังไม่พอใจ ขายมันทิ้งซะงั้น แล้วก็ไปเอาไอ้กระทิงตาโตนี่มาอีกจนได้

แต่เดี๋ยวก่อน...มาในครั้งนี้ ผมสลัดคราบมนุษย์กิเลสตัณหาออกจากร่างกายไปจนหมดสิ้น หลงเหลือแต่เพียงหนูโก้ที่สดใส ร่าเริ่ง บันเทิงใจ คิดร้อยตลบว่ากูจะเอาเงินที่ได้จากการขาย Sportster ไปซื้ออะไรดีวะ??? ในที่สุดก็ตกลงกับกิเลสของตัวเองได้ เลยกำเงินสองแสนหนึ่ง (มัดจำก้อนแรก 1 แสน) ไปหมั้น Buell xb9s Lightning ไว้ก่อน กลัวมันหลุดจากคอกไปหาคนอื่น แล้วก็นอนรออีก 1 เดือนเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของมัน

มีเงินเหลือในกระเป๋าหลังจากหัก ณ ที่จ่ายตั้ง 5 หมื่น บาทแหน่ะ
โอ้ววว กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ทำไม่กูเป็นคนที่คิดการเงินได้คุ้มทุนบวกกำไรสุดๆ ขนาดนี้วะ 555

ผมขายรถได้ 260,000 เอาไปซื้อรถ 210,000 เท่ากับว่าเหลือเงินใช้อีก 5 หมื่น
นับเป็นการซื้อของสุรุ่ยสุร่ายครั้งแรกในชีวิต ที่มีเงินเหลือติดกระเป๋า...เท่ห์มะอ้า??
นี่ท่าจะบังคับการใช้เงินได้ดีขึ้นกว่าเดิมนะกรู...หึหึ ผมนั่งกระหยิ่มยิ้มในใจ :)~






















ยังไม่ทันครบ 1 ปี
มึงขี่ Bigbike มา 4 คันแล้ว
เท่ห์จริงๆ เลยแสรดดดด
ยังจะมีหน้ามาพิมพ์

555

ปล. อนุญาตให้ถุยครับ ไม่ว่ากัน

13.7.52

แด่พี่ชายคนหนึ่ง

สองถึงสามเดือนที่ผ่านมา คนที่ผมรักและสนิทสนม ค่อยๆ ลาโลกไปทีละคนสองคน ด้วยโรคประจำตัวบ้าง ด้วยอุบติเหตุอย่างไม่คาดคิดบ้าง เมื่อวานนี้ก็เช่นกันครับ รุ่นพี่ที่เคยไล่เตะบอลด้วยกันมาเกือบ 20 ปี ได้เสียชีวิตลงอย่างกระทันหัน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์

เด็กที่บ้านเขาร้องไห้โฮมาตั้งแต่ปากซอย เล่าความไม่เป็นศัพท์ จับใจความเนื้อหาของเรื่องราวได้แค่ว่า พี่เขาตายแล้ว ได้ยินแล้วก็ใจหายนะครับ เห็นกันอยู่เมื่อสองวัน แต่ปัจจุบันคงไม่ได้เจอกันแล้ว...

ในความคิดของผม คนที่ตายไปมีสองประเภทนะ

ประเภทแรกคือ ตายไปแล้วคนจดจำ...
ประเภทสองคือ ตายไปเสียได้ก็ดี...

รุ่นพี่ผมอยู่ในประเภทแรกครับ คือตายแล้วมีแต่คนเสียดาย (ผมขอข้ามที่จะเล่าเรื่องราวของแกบนบล็อกนี้ก็แล้วกันนะ) ความตายเป็นเรื่องธรรมดาอย่างที่หลวงพ่อพุทธทาสเคยว่าไว้ในเรื่องของ การจัดระเบียบความตาย ส่วนจะตายยังไงนี่ก็เลือกได้เหมือนกันครับ แต่มีแค่ 2 ข้อด้านบนเท่านั้นนะ ไม่ได้เลือกตอนก่อนที่จะตายนะครับ ควรสั่งสมความดีไว้ก่อนตาย แล้วให้คนเขาตัดสินกันเองละกันในภายหลัง

หลับให้สบายนะพี่...

ผมนั่งรำพึงอยู่ในรถ เมื่อวานเย็นนี้ว่า ห่าอะไรของมึงวะ??
คนดีๆ ตายหมดโลก
ไอ้พวกเลวๆ นี่แม่งเดินกันสลอน
แต่ก็อย่าได้ห่วงนะครับพี่ พี่จากไปมีแต่คนจดจำ

ไอ้เลวๆ ที่สลอนหน้าอยู่น่ะ
ถึงจะมีชีวิตอยู่
แต่ผมคิดว่าไม่มีใครจดจำแม่งหรอก

ด้วยความเคารพครับพี่เอ๋

10.7.52

ไข้หวัดใหม่ สายพันธุ์ใหญ่

สวัสดีวันฝนพรำประจำเดือนกรกฎาคมครับ เดือนนี้ไม่ได้มีแต่ห่าฝนที่ยังคงตกอย่างไม่ลดละ แต่ยังมีไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เข้ามาแจมอีก คนป่วยด้วยโรคนี้จะค่อนประเทศไทยอยู่แล้ว บ้างก็เริ่มทยอยตายกันทีละคนสองคน ยังไงก็ระมัดระวัง และได้โปรดอย่าประมาทกับโรคภัยไข้เจ็บด้วยล่ะครับ ถ้าเป็นหวัดก็ไปหาหมอเพื่อเช็คร่างกายซะ ก่อนที่อะไรๆ จะเลวร้ายลงกว่าเดิม

แต่ก็อย่าได้กังวลใจมากซะจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ จนระแวงไปซะทุกระยะล่ะครับ โรคมันไม่ได้น่ากลัวขนาดที่พอเห็นหน้าปุ๊บแล้วตายปั๊บเลยซะเมื่อไหร่ หากแต่ว่าบางท่านที่มีภูมิต้านทานน้อยกว่าคนอื่น หรือมีโรคประจำตัวร้ายแรงอยู่แล้ว มีสิทธิที่จะโดนใบแดงออกจากสนามมากกคนอื่นก็เท่านั้นเองล่ะครับ

ถ้าเกิดว่าใครเป็นหวัดขึ้นมาจริงๆ ก็ควรรีบหาหน้ากาก (ไม่ใช่หน้ากากเสือนะครับ) มาใส่เพื่อป้องกันเชื้อโรคจากการ ไอ หรือจามซะนะครับ เราจะได้ไม่แพร่เชื้อให้กับคนอื่น เดี๋ยวจะติดกันเป็นหางว่าวซะเปล่าๆ

ขอให้รักษาสุขภาพทุกท่านนะครับ บอกคนอื่นแต่ตัวเองขี่มอไซค์ตากฝนแม่งทุกอาทิตย์ เหี้ยจริงๆ กู - -' เค้าเป็นห่วงหรอกนะ ก็เลยมาบอกกล่าว ส่วนตัวผมมันมีโอกาสตายจากมอตะไซค์คว่ำ ตับแข็ง มะเร็งปอด หรือโดนยิงตายมากกว่าเป็นไข้หวัดนี่ซะอีก ก็เลยเฉยๆ น่ะ

สุดท้ายก็ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรงดี โรคภัยไม่เบียดเบียนครับ

30.6.52

it's not easy to be me

-----------------
เพชรบูรณ์ 2552
คลิ๊กที่เพชรบูรณ์ละกันนะครับ จะได้เห็นรูปที่ผมอัพลงมัลติปี๊ไว้ คือหมายความว่าให้คลิ๊กที่คำว่า "เพชรบูรณ์" นะครับ ไม่ใช่ไปคลิ๊กที่ จังหวัดเพชรบูรณ์ - -''

ผมเป็นห่วงบางคนที่เถรตรงน่ะ
มีเยอะ เจอมาแยะ
ขอบคุณครับ

24.6.52

ควรอ่าน




ช่วงนี้มันเยอะน่ะครับ
เลยมาอัพบล็อคทิ้งไว้เตือนใจตัวเอง (ซะบ้าง)
กิเลสนะที่เยอะ ไม่ใช่ข้อมูลลงบล็อค
-_-'

Credit รูปภาพ: http://levan-m.blogspot.com/
Credit เนื้อหา : http://www.buddhadasa.com/rightstudydham/kires.html

17.6.52

ไม่ได้มีเหลือ แต่มีเพื่อแบ่งปัน


ส่วนหนึ่งที่มองไม่เห็นของเด็กๆ ตามโรงเรียนบ้านนอก คือ จน ไม่มีกิน บ้านไม่มีหลังคา เสื้อไม่มีใส่ เงินไม่มีใช้ และชีวิตแทบไม่มีดี และของฟรีที่ได้มาตั้งแต่วัยเด็กก็คือความพิการ

ด.ญ.สุรัชดา นิธิพงศ์ไพบูลย์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนหนองหว้าประชาอาสา เธอพิการที่ขา และต้องใช้ไม้เท้าค้ำยันตลอดเวลา ได้รับทุนการศึกษาเป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท จาก นต์.คอม ครับ

1,000 บาทสำหรับครอบครัวที่ยากจน มันมากจนเกินที่คาดคิดจริงๆ ครับ น้องมันยิ้มแก้มปริ จนเราขนลุก บางคนที่ร่ำรวย แม่งก็รวยจนล้นประเทศ บางคนที่มั่งมี แม่งก็มีจนแทบไม่เหลือที่จะให้เก็บ ส่วนคนที่จน มันข้นแค้นจนนั่งคิดไม่ตกว่า ชีวิตกูเกิดมาเพื่่ออะไร

หากท่านใดหลงผ่านมาอ่านบล็อกรั่วๆ ของผม แล้วเกิดสะดุดตีนเข้าอย่างจัง รบกวนฝากบอกคนข้างๆ หรือใครก็ได้ที่ท่านรู้จักด้วยนะครับ ว่า ถึงไม่ได้มีจนเหลือ แต่ขอให้มีเพื่อการแบ่งปันบ้าง ก็ยังดี
จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ

16.6.52

แทนคำขอบคุณ


14 มิถุนายน 2552 ผมกับเพื่อนขี่รถไปบริจาคของกันที่ โรงเรียนบ้านหนองหว้าประชาอาสา สะแกราช ปักธงชัย นครราชสีมากันครับ โรงเรียนนี้มีเด็กทั้งหมด ราวๆ 40 คน ครอบครัวมีพื้นฐานที่ไม่มีอันจะกิน (แย่กว่ายากจน) เด็กๆ ไม่มีเงินทุนในการเรียน ไม่มีเงินใช้ ไม่มีเสื้อผ้า ของใช้ดีๆ เหมือนเด็กในเมืองกรุงทั่วไป

www.colorado-club.net เป็นคนริเริ่มโครงการนี้ครับ ด้วยสำนึกของคนชอบเที่ยวใจเดียวกัน ว่าในเมื่อมีเงินที่จะเที่ยว ก็ต้องมีเงินเหลือพอที่จะแบ่งปันกับคนด้อยโอกาส โครงการในครั้งนี้เป็นโรงเรียนที่ 4 จาก 3 โรงเรียนที่เคยทำกันมา วัตถุประสงค์ก็คือ แบ่งปัน

งานนี้มีคนใจดี ยื่นมือมาช่วยเหลือกันมากมาย เริ่มจาก น้องแอน สาวแว่นเว็บฟนต์ ร่วมบริจาคของใช้ส่วนตัวจำนวนหนึ่ง และ จ่าเจฟ เจ้าหน้าที่ รฟท. ตัวดำใจดี สมทบทุน 1,200 บาท และเงินทุนการศึกษาจาก http://f0nt.com อีกเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท

ขอบคุณครับแอนและโบว์
ขอบคุณครับน้องแอนสาวแว่นตัวเล็ก
ขอบคุณจ่าเจฟ รฟท. ครับ
ขอบคุณ http://f0nt.com อย่างที่สุดครับ

รูปด้านบน แทนคำขอบคุณจากเด็กๆ ครับ

3.6.52

ก๋วยเตี๋ยวชามใหญ่ ใส่อะไรถึงอร่อย


การถ่ายรูปก็เหมือนการกินก๋วยเตี๋ยว ต่างคนต่างชอบปรุงรสแตกต่างกันไปคนละแบบ หากชอบเปรี้ยวนำ อย่าบอกว่าหวานไม่อร่อย หากชอบเผ็ดจี๊ด อย่าคิดว่าเค็มแล้วจะไม่ถึงใจ หากชอบรสจืด จงอย่าคิดว่ารสจัดนั้นจะน่ากลัว

ก๋วยเตี๋ยวจะอร่อยหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่คนปรุง ว่าชอบรสชาดไหน บางคนกังวลว่าเมื่อเห็นก๋วยเตี๋ยวแล้ว กูจะปรุงอร่อยมั้ยวะ กินแล้วจะเป็นยังไง คนอื่นจะคิดว่าก๋วยเตี๋ยวที่ปรุงของกู มันน่ากินมั้ย... จะสนใจทำไมครับ ในเมื่อก๋วยเตี๋ยวที่คุณสั่งมาเองนั้น ปรุงรสชาดด้วยตัวเอง ด้วยความรู้สึกที่ตัวเองชอบ แล้วจะกังวลใจไปทำไม ในเมื่อคุณก็ได้กินก๋วยเตี๋ยวชามนั้นด้วยตัวเอง

ผมไม่ใช่โปรในการกินก๋วยเตี๋ยว ที่จะบังอาจมาแนะนำสูตรเด็ดเคล็ดลับให้กับท่านอื่น เพียงแต่อยากจะมา บอกว่า ก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยที่สุด คือก๋วยเตี๋ยวที่เราปรุงเอง ฉันใด รูปถ่ายที่สวยงามที่สุด ก็คือรูปถ่ายที่ท่านบันทึกด้วยความรู้สึกของตนเอง ก็ฉันนั้นครับ

21.5.52

ความมันที่ไม่มีวันหมด

สนุกครับ กับการแต่งตัวให้กับของที่ตนเองรัก ไม่ว่าจะเป็นของเล่นหรือของไม่เล่นก็แล้วแต่ ถ้ามันได้มาอยู่ในมือผมแล้วล่ะก็ อย่าหวังได้เป็นของเดิมๆ เลยทีเดียวเชียว นิสัยมันแก้ไม่หายน่ะครับ ว่าจะไม่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พูดแบบนี้นั่นล่ะก่อนที่จะเอาล้อไปให้เขาพ่นสีดำ เอาสเตอร์หลังไปให้ทำสีใหม่ รวมทั้งถอดถังไปทำสีอีกรอบ ทั้งที่ความจริงแล้ว สีเดิมมันก็ยังดีอยู่ (มากๆ)

มีลูกมีหลาน อย่าบอกให้มาอ่านบล๊อกผมนะครับ สันดานจะเสียตามผมกันไปหมด แต่ขอฝากบอกอะไรกับคนที่หลงเข้ามาอ่านไว้ซักนิดเถอะว่า "ทำอะไร ถ้าใจรัก ทำไปอย่าหยุด หากมีความสุข ความทุกข์เท่าภูเขามันก็เบาได้" เชื่อสิ...

วันนี้มาแนวเชิงคติสอนใจ แอ๊กน่าดูเลยกู 555
ปล. ผมไม่หมายรวมถึงการเป็นหนี้ด้วยนะครับ
เพราะมันสอนกันไม่ได้ ต้องลองเป็นกันเอง สนุกพอๆ กับแต่งรถเลยล่ะ
เชื่อสิ...

ขอให้โก้ได้โชว์แอ๊กบ้าง...

สวัสดีเดือนพฤษภา หน้าฝนกระหน่ำครับ ก่อนฝนพรำลงมาอย่างไม่บอกกล่าว ผมได้บอกลา Chevrolet Colorado ไปเมื่อปลายเดือนเมษา ในราคาที่คนหลายคนถึงกับร้องว่า "แสรดดดดด" คือโดนด่าน่ะครับว่า ทำไมมึงไม่เอากำไรจากการขายรถของมึงบ้าง ทั้งๆ ที่มันสามารถขายได้ราคาเยอะกว่าที่ผมเป็นคนตั้งได้มากกว่านี้ เหตุผลน่ะเหรอครับจะสำคัญเท่า "กูอยากขาย" อิอิ คือขับโคโลราโด้มา 4 ปีแล้วน่ะครับ ไปเที่ยวทุกที่ขี้ทุกดอยมาก็เยอะ มันถึงจุดอิ่มตัวแล้วน่ะครับ (ไม่ได้หมายถึงขี้จนหมดไส้นะ)

พูดกันตรงๆ หรือเว้ากันซื่อๆ เลยก็ได้ครับว่า ให้กูได้แอ๊กบ้างเถ้ออออออออออออออออ ก็เลยไปตระเวนหารถเก๋งในระดับ เซเนอดีน ซีดาน มาไว้ในครอบครองครับ แล้วก็ได้ไอ้เนี่ยมาคันนึง เป็น Nissan Cefiro รุ่น A32 ปี 2001 รุ่นท้ายแยก (ไฟท้ายมันแยกคนละข้างน่ะครับ) ในราคาที่ เอ้อ พอไหวว่ะ พอไหวในที่นี้คือ ส่งงวดต่อได้ โดยไม่น่าจะกระทบกระเทือนการใช้เงินในชีวิตประจำวันของผม (แค่สั่นนิดๆ)

ได้มาในครอบครองแล้วก็ทำตามสัญญาหัวใจครับ (สันดานนั่นล่ะ) คือจับมันแต่งซะ หึหึ ด้วยการใส่แม็กซ์ขอบ 18" รัดด้วยยาง Yokohama ขนาด 225/40/18 พร้อมชุดสปริงโหลดของ H&R เพื่อที่จะให้มันเตี้ยกว่าของเดิมลงมา 1.5" เป็นอันเสร็จภาระกิจสร้างหนี้ชิ้นแรกของผม พร้อมกับเงินอีกก้อนนึง

เสียเงิน แต่ได้แอ๊กสมใจครับ เพราะตอนขับเข้าบ้านนี่ หมาหอนกันเกรียว ผลัดกันมาเยี่ยวรถล้อกันครบทุกข้าง แต่เอาเถอะ เบื่อกระบะแล้ว ขอขี่รถเก๋งบ้างจะเป็นไร คนเรา อย่างน้อยๆ มันก็ต้องขอให้ได้แอ๊กบ้าง ถึงจะไม่มาก ได้แค่นี้ก็ยังดีวะ แสรดดดดด

9.4.52

ไม่ไหวแล้วนะโว้ยยยยย

จริงแล้วผมเป็นคนซีเรียสในชีวิตมากเลยนะครับ...ทำเป็นเล่นไป
แอบอ่านบล็อคผมแล้วอย่าทะลึ่งมาทักผมในอารมณ์ที่ บ่จอย นะครับ
ผมไม่เล่นด้วย..








































































































แต่เจอแบบนี้ก็ไม่ไหวแล้วนะโว้ย
ใครมันแกล้งพวกมึงวะ 555+++++++++
แซร๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ปล. สุขสันต์วันสงกราต์ครับ ผมไม่มีอะไรจะให้หรอก...
ใครอยากได้ ก็เก็บไปฮากันเอาเองนะครับ มากน้อยก็ตามลำบากเลย
กูขอไปเช็ดขี้แป๊บ (ฮาขี้แตกไง) ...

3.4.52

แค่นี้ก็พอแล้ว


เคยอยากได้
เคยอยากมีไว้กับตัว
เคยคิดว่า อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม
เคยมีความต้องการที่จะยื้อไว้ ... ให้นานที่สุด
เคยคิดว่าที่เราทำไปนั่น เรามีความสุข และเขาก็คงมีความสุข ...

หลังจากตาลผ่าตัดเนื้องอกที่มดลูก และออกจากโรงพยาบาลจุฬามาเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ได้ยินเสียงจากโทรศัพท์แบบแผ่วๆ ว่าเจ็บแผล ถัดมาอีก 1 อาทิตย์หลังจากหายดี น้ำเสียงตาลเหมือนเดิม ร่าเริง สดใส ถึงแม้ยังกังวลในผลของการผ่าตัดก็ตาม

ไม่อยากให้ตาลเจ็บ เพราะเวลาได้ยินเสียงแผ่วๆ แล้วทนไม่ไหว ไอ้ครั้นจะบอกว่าอยากเจ็บแทน ก็ลิเกเกินไปแค่ไม่อยากให้ตาลเจ็บแบบนั้นอีก อะไรที่เคยอยากได้ ไม่เอาแล้ว ขอแค่นั่งมองเวลาที่ตาลมีความสุข ก็พอใจ

การได้ยินเสียงหัวเราะ ของคนที่ผมรัก
มีค่ามากกว่าความสุขของผม หลายเท่า
หากว่า ต่อจากนี้ มันได้แค่นี้
ก็พอแล้ว...

30.3.52

ทางเลือก เลือกทาง

ปล. รูปจากทริปทำบุญ 29 มีค 52

ครั้งนึงผมเคยรอคำว่า รัก อยู่เป็นเวลา 6 ปีเต็ม แต่เหมือนกับคงมีอุปสรรคและเหตุการณ์บางอย่างที่มาทำให้คำที่ว่า รัก ของผมนั้นมัน ไม่สมบูรณ์ เนื่องด้วยมีเหตุการณ์หนึ่งมาจูงมือผมไปทำ หน้าที่ ที่เลือกข้างไม่ได้ เลยทำให้คำว่า รัก ของผมนั้นมันย้อนกลับมาอีกรอบหนึ่งอย่างไม่ตั้งใจ

แต่คราวนี้คำๆ นั้นมัน ไม่สมบูรณ์ เหมือนตอนก่อนแล้ว ก็เพราะ หน้าที่ ที่เลือกไม่ได้นั่นล่ะ เป็นตัวที่ทำให้เราต้องทำตามมาจนถึงทุกวันนี้ ยอมรับว่าแม่งโคตรน้ำเน่าครับ หากจะให้ใช้คำว่า หน้าที่มาก่อนความรัก แต่หากใครเจอแบบผม คงไม่เลือกไม่ได้ หรือบางคนอาจเลือกได้ แต่กูเลือกทางนี้แล้ว ใครจะทำไม

...นี่กูพร่ำเหี้ยอะไรอยู่เนี่ย??

ขอโทษทีครับ แค่อยากจะมาบอกว่า เมื่อวานขี่รถมอเตอร์ไซค์คนเดียว
แบบไม่มีคนซ้อนนี่ อิสระชิบหาย ให้ตายเหอะ

24.3.52

พัฟ มังกรวิเศษ


*Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist
in a land called Honah Lee

Little Jackie Paper loved that rascal Puff,
and brought him strings and sealing wax
and other fancy stuff. Oh!

( Repeat * twice )

Together they would travel
on a boat with billowed sail
Jackie kept a lookout perched on Puff's gigantic tail,

Noble kings and princes would bow
whene'er they came,
Pirate ships would lower their flag
when Puff roared out his name. Oh!

( Repeat * twice )

A dragon lives forever but not so little boys
Painted wings and giant rings
make way for other toys.

One grey night it happened,
Jackie Paper came no more
And Puff that mighty dragon,
he ceased his fearless roar.

His head was bent in sorrow,
green scales fell like rain,
Puff no longer went to play along the cherry lane.
Without his life-long friend,
Puff could not be brave,
So Puff that mighty dragon sadly slipped into his cave.

Oh!

( Repeat * twice )

ปล. ผมชอบเพลงนี้ครับ :)

18.3.52

มีนา หน้าฝน


เหตุอันใด พอความรักเธอเริ่มต้น
ชายทุกคน หลีกไกล
เหตุอันใด เธอเคย คิดดูหรือไม่
ใครล้อมกรอบตัวเอง

ตั้งข้อแม้ รักเสียมากมาย
จะมีชายใดเป็นได้ดัง
เช่นกฎเกณฑ์ เธอวางไว้ใครบ้าง
จะมีทาง เป็นชายของเธอ
เธอเห็นใคร ไยถึงต้องหลอกตัวเอง

ใจเธอเอง คิดกลัวทุกอย่าง
บางครั้งเธอ เต็มใจ แต่กลัว
เปรียบเธอเป็น คนกลัว ฝนที่เย็นฉ่ำ
กลัวฝนทำ เธอเปียกปอนไป

หากเธอคิด พบรักที่ชื่นฉ่ำ
อย่ามัวทำ ตัวเองมืดมน
อย่ากลัวฝน เพราะฝน นั้นเย็นฉ่ำ
อย่ามัวทำ ตามความคิดเดิม
ลองคิดดู ลองหาทางสู้กับฝน

ท้องฟ้าใส ยามฝนซา
เปียกปอนกันมา กลับแห้งไป
ความรักนั้น ต้องมั่นใจ
ฝากใจให้รักชักนำ

หากเธอคิด พบรักที่ชื่นฉ่ำ
อย่ามัวทำ ตัวเองมืดมน
อย่ากลัวฝน เพราะฝน นั้นเย็นฉ่ำ
อย่ามัวทำ ตามความคิดเดิม
ลองคิดดู ลองหาทางสู้กับฝน

ท้องฟ้าใส ยามฝนซา
เปียกปอนกันมา กลับแห้งไป
ความรักนั้น ต้องมั่นใจ
ฝากใจให้รักชักนำ

หากเธอคิด พบรักที่ชื่นฉ่ำ
อย่ามัวทำ ตัวเอง มืดมน
อย่ากลัวฝน เพราะฝน นั้นเย็นฉ่ำ
อย่ามัวทำ ตามความคิดเดิม

ปล. ยินดีต้อนรับเข้าสู่หน้าฝน เดือนมีนาคม 2552 ครับ (นี่มันหน้าร้อนโว้ย)

ปลล. ผมถ่ายรูปนี้ไว้ ตอนขึ้นเขาใหญ่เมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา
ขึ้นไปพอดีฝนต้อนรับด้วยการตกมาห่าใหญ่ เปียกไปทั่วทั้งคนทั้งฮาร์เลย์
แต่ผมกลับยินดีปรีดา เหมือนปลาได้น้ำ ชอบใจจริงๆ แต่เบื่อล้างรถชิบหาย

4.3.52

กำไรที่ได้มาฟรี


ว่าจะเกริ่น แต่ก็กลัวว่าหลายท่านที่เผลอเข้ามาอ่าน(จะมีเรอะ)จะปะติดปะต่อเรื่องไม่ถูกน่ะครับ ว่ามันพูดถึงอะไรของมันวะ เอาแบบสั้นๆ เลยละกัน ว่าเมื่อปลายมิถุนายน ปี 2551 ผมเสียหมา (หมายถึงหมาจริงๆ) ไปตัวนึงครับ เป็นหมาที่อยู่กับเรามา 8 ปี 6 เดือน เพราะอาการตับ และไตวาย เรารู้สึกเหมือนชีวิตมันโดนหั่นไปครึ่งซีก ด้วยความที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดเวลา มันก็เลยพาลให้ต้องคิดแบบนั้น และต่อมาอีกไม่กี่เดือน เราก็ต้องเสียหมาที่อยู่ในบ้านไปอีก 1 ตัวครับ

เจอแบบนี้เข้าไป ทั้งบ้านถึงกับตั้งหลักไม่ถูก เพื่อนที่ดีที่สุดของเราหายไป 2 คน เพื่อนที่เรารักมากที่สุดจากไป เพื่อนที่ซื่อสัตย์กับเรา ได้ลาจากโลกนี้ไปแบบไม่มีวันกลับ มันเหมือนขาดทุนนะครับ ถ้าคิดซะว่านี่เป็นการค้าขาย ถ้าคิดซะว่ามันตัวละ 100 ล้าน ปีที่แล้วผมขาดทุนไปแล้ว 200 ล้านบาทไทย คิดไปมันก็น่าจะหมดตัว หมดแรงที่จะทำอะไรต่อเหมือนกัน

ผมเขียนบล๊อคมั่วๆ ไว้ที่ nuugoz.hi5.com ในหน้าสมุดบันทึกไว้ เพื่อเป็นการย้ำเตือนว่า ปีนี้ขาดทุน ปีหน้ากูจะต้องกำไรให้ได้ กำไรชีวิตของผมคือการได้เลี้ยงสุนัข การได้เห็นสุนัขเกาตูดอย่างเมามัน การได้เห็นมันทำหน้าเบลอๆ งงๆ ดอนที่เพิ่งตื่นนอน หรือแม้กระทั่งการได้แกล้งสุนัขก่อนออกจากบ้าน ผมถือว่าทุกเช้าผมได้กำไรทุกวัน

จนเมื่อสองวันก่อน มีสมาชิกใหม่เข้ามาในบ้านแบบไม่ได้ตั้งตัว (จริงๆ ต้องเป็นไม่ได้ตั้ง 2 ตัว) ได้มาแบบเขาจับยัดครับ เป็นลูกหมา(นรก)พันธุ์พุดเดิ้ล ทอยหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าแม่งซนชิบหาย อายุ 2 เดือนไล่ๆ กันแล้ว สีน้ำตาลอ่อนทั้งคู่ หลานผมตั้งชื่อมันว่า ชิฟฟ่อนและบราวนี่ ให้ชื่อคล้องกับไอ้แยม หมาส่วนตัวของผมนั่นล่ะครับ

กำไรชีวิตกูมาแล้วครับพี่น้อง อิอิ
เดี๋ยวจะแกล้งแม่งให้จั๋งหนับ....

ปล. อย่างงกับภาพที่เอามาแปะนะครับ ว่าทำไมมันเอียงกะเท่เร่แบบนั้น รูปจริงมันตั้งตรงนั่นล่ะครับ
แต่พอมาวางเลย์เอาท์บนบล๊อค ผมว่ามันโด่เด่ยังไงก็ไม่รู้ ก็เลยตะแคงแม่งซะยังงั้น จะได้ดูสวยแล้วก็เหมือนเรื่องข้างล่าง คนอ่านจะได้บันเทิง (ใครเค้าจะเข้ามาอ่านบล๊อคมึง)

แค่นั้นล่ะที่อยากจะชี้แจง ขอตัวไปวางแผนแกล้งไอ้สองตัวนี้ก่อน แสรด เจอกัน

24.2.52

ยืนอย่างมั่นคง ตั้งตรงด้วยไฮสปีด

วันเสาร์ที่ 21-22 กพ. 52 พวกเรา (colorado-club.net) ไปเยี่ยมโรงเรียนบ้านวังรี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี มาครับ หลังจากที่ 3 ปีที่แล้วเราไป เบิกทาง ร่วมกันสร้างร่วมกันต่อเติมและบริจาคของให้กับโรงเรียนแห่งนี้ บ้านวังรีอยู่แถบ อ.นาดี ครับ ไม่ไกลจากถนนใหญ่เท่าไหร่นัก แต่ความเจริญทางเท้าเข้าไปไม่ถึง? ไร้สาธารณูปโภคใดๆ ทั้งสิ้น เด็กๆ 70 กว่าชีวิต ไม่รู้จักคำว่า ของใหม่ มีใช้แต่ ของเก่า ที่เป็นของใช้แล้วมาตลอดชาติ

สามปีก่อนเราไปทำปั๊มน้ำให้ ติดจานดาวเทียมให้ และอื่นๆ อีกมากมายที่เราไปทำ มันถูกบันทึกและจดความทรงจำลงบนกระดาษไฮเทค หรือที่หลายคนเรียกกันว่า อินเทอร์เนท หลายชีวิตจากวังรี ได้โลดเล่นอยู่บนพื้นที่เว็บไซต์ของ colorado-club.net เป็นเวลา 3 ปีเต็มๆ http://www.bbznet.com/scripts2/board.php?user=colorado&board=8&order=numtopic จะเห็นได้จากภาพกิจกรรมต่างๆที่สมาชิกของเราได้เก็บภาพเอาไว้

ไม่คิดเลยนะครับ ว่าไอ้อินเทอร์เนทไฮเทคซังกะบ๊วยควยเอ๊ยเนี่ย ที่หลายคนเปิดดูเว็บโป๊ (รวมทั้งกู) ดู hi5 ไปคอมเม้นท์ เล่นเกมส์ออนไลน์ มันจะมีประโยชน์กับเด็กๆ ที่บ้านอยู่หน้าเขา อย่างบ้านวังรีอย่างที่สุด จะเรียกได้มั้ยว่า อินเทอร์เนทน่ะมีประโยชน์ ถ้าใช้ให้ถูกที่และถูกทาง

เราปลื้มใจที่ครูใหญ่โรงเรียนบ้านวังรีกล่าวกับเรา ก่อนกลับว่า "โคโลราโด้คลับ เป็นคนเบิกทาง จุดประกายให้ใครหลายคนที่เข้ามาอ่านเว็บไซต์ ได้รู้จักและสนิทสนมกับวังรี และยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ" ได้ยินครูพูดแบบนี้ เราก็ปลื้มใจกันชิบหายล่ะครับ

ใครจะไปรู้ว่า อินเทอร์เนทที่ผมเปิดเว็บโป๊ดูทุกเย็น มันจะทำให้โรงเรียนเล็กๆ อย่างวังรี ยืนได้มั่งคง และแข็งแรงอย่างทุกวันนี้ ... ขอบพระคุณครับบ้านวังรี ที่ทำให้พวกเรารู้ว่า อะไรที่ลงท้ายด้วย xxxgirl.com มันก็ไม่ได้มีความสุขมากไปกว่า การทำให้โลกภายใน ออกมาสู่สายตาโลกภายนอกแบบนี้

11.2.52

แก้ไขหรือลบทิ้ง?


วันนี้มาเขียนบล็อคด้วยอารมณ์ที่จิตมาก หมายถึงจิตหงุดหงิด มิใช่จิตหงุดหงิ๋มแบบที่เขาเล่นมุขกัน คือจะมาเล่าให้อ่านว่า ผมมีคนรู้จักอยู่คนนึงครับ เขาเป็นคนที่ "เห็นแก่ตัว" อย่างลับๆ คนเราถ้าเห็นแก่ตัวนี่ก็แย่แล้วนะครับ ไม่มีคนอยากคบด้วย ไม่มีใครอยากสนใจด้วย แต่นี่ยังจะมาเห็นแก่ตัวลับๆ อีก มันหนักเข้าไปใหญ่ หมาย ความว่าอะไร??? หมายความว่าทำเนียน ทำเนียนไม่รู้ไม่ชี้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ ทำเนียนว่ากูเนี่ย แบ๊วนะ ไม่เข้าใจนะ (แต่จริงๆ คือกูนี่ล่ะทำ กูนี่ล่ะไม่ทำ) คนแบบนี้มีอยู่บนโลกนะครับ ข้างๆ ตัวผมนี่ล่ะ ใกล้ตามาก

จะไปบอกให้เขาแก้ไขตัวเอง ว่าพี่ครับ อย่างนี้สิครับคนดีเขาทำกัน อย่างนี้สิครับที่มนุษย์เขาเอื้อเฟื้อกัน ทำเป็นไหมครับ?? มันก็ไม่ได้ เพราะคนเรามีความคิด ความเห็นแก่ตัวต่างกันครับ มากหรือน้อยนั่นล่ะเป็นตัวตัดสินว่า เป็นคนแบบไหน ถ้าน้อยเกินไป บางทีก็อยู่บนโลกนี้ไม่สนุกนะครับ โดนเอารัดเอาเปรียบทุกทาง

แต่ถ้ามันมากจนเกินงาม มันก็รังแต่จะสร้างความน่ารังเกียจให้กับคนที่ได้สัมผัสโดยตรงใช่มั้ยครับ ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่า จะทำยังไงกับมนุษย์ประเภทนี้ดี??

ผมนั่ง อดทน นั่งเฝ้าดู นั่งฟังมาหลายยกแล้ว แรกๆ เลยก็นิ่งล่ะครับปล่อยมันไป หลังๆ มาชักหนักข้อขึ้น เขาทำงานกันงกๆ แต่พี่แกกลับนั่งแป้นแล้น หรือไม่ก็หายตัวลึกลับไปซะยังงั้น???!!!

จะไปแก้ไขให้โดยการบอกว่ากูรังเกียจมึงมากก็เกรงใจ กลัวจะคัน
หรือจะลบทิ้งมันโดยการเข้าไปตำหน้ามันซักดอก ก็ไม่ไหว กลัวมือสกปรกว่ะ (จริงๆ ผมไม่ได้สะอาด)
ก็เลยทำตามที่ใจคิด มอบรางวัลชีวิตยกที่ 1 ให้กับเขาไป
หวังว่าเขาคงพอใจในระดับหนึ่ง แต่ถ้าไม่พอใจ ในอนาคตถ้ายังเป็นแบบนี้อีก
เดี๋ยวพี่จัดให้นะจ๊ะ

รักนะ แต่ไม่แสดงออก (เหี้ยจริงๆ กู)