29.1.53

ใครสักคน



http://www.youtube.com/watch?v=wS9kFH41QUA

ฟ้ายังฟ้าไม่เคยเปลี่ยนไป
กี่เดือนกี่ปี ก็ยังเป็นสีฟ้าดั่งเก่า
เหมือนใจฉันไม่เคยเปลี่ยนเลย

จะนานเพียงใดในใจดวงนี้ก็ว่างเปล่า
เมื่อไรไม่รู้เลย ที่จะมีอย่างใครเขา

ก็ใครกันเล่าจะมาเป็นคู่กัน ก็ใครกันเล่าจะเดินอยู่ข้างกัน
จะมีบ้างไหมแค่ใครซักคน ที่ไม่มองข้ามคนอย่างฉัน
ก็ใครกันเล่าจะคอยมาเถียงกัน ได้งอนได้ง้อได้หึงกันทุกวัน
มาทำชีวิตที่มันขี้เหร่ ได้มีความรัก (แทนความเหงา)

ฟ้ายังฟ้าหัวใจยังเหงา ให้มันเทาๆ ยังดูมีสีสันมากกว่า
รักแล้วจะทุกข์จะล้มจะลุกก็รับได้ ไม่เป็นไร
ยังดีกว่าต้องเดียวดาย ดีกว่าต้องมองรักใคร
ที่เขาเดินคลอเคลีย รักกันไม่เกรงใจฉัน


ช่วงนี้รั่วบ่อย แต่รั่วอย่างมีที่มาและที่ไป
รูปนี้ถ่ายหน้าอู่พี่หลุยส์ แล้วรีทัชตามที่เราชอบ
ก่อนที่พระอาทิตย์จะหล่นดังๆ หลังสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง
ตาเห็นมือก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดด้วยอารมณ์ที่หลงรักท้องฟ้า
ที่ไม่เคยเปลี่ยนไป แต่เปลี่ยนแปลงทุกครั้งที่เราหันมอง

ฉะเชิงเทรา 2553

26.1.53

เดอเกอแวง



เอ็นข้อมืออักเสบ หรือเรียกเป็นภาษาทางการแพทย์ว่า โรคเดอ เกอร์แวง เป็นกลุ่มของโรคที่เกี่ยวกับความผิดปรกติของปลอกคลุมเส้นเอ็นตามร่างกายครับ ผมเป็นที่ข้อมือเมื่อสามปีที่แล้ว ที่เว็บฟ๐นต์.คอม ซึ่งตอนนั้นไว้ผมยาว (ตอนนี้ก็ไว้แหละ) แล้วเวลารวบผมมันมักจะเกิดอาการแปล๊บบบบ บริเวณของข้อมือขวา ตรงฐานนิ้วโป้งนั่นล่ะครับ ถึงกับตะคริวกินขยับกันไม่ได้เลยทีเดียว (จริงๆ มันก็หลายทีแหละ)

สามปีผ่านไปกับการตัดสินใจที่จะไม่ผ่าตัด วันนี้อาการเดิมมันกลับมาอีกแล้ว เพราะเนื่องจากการทำงานที่ต้องจับและขยับเม้าส์ด้วยมือขวาตลอดเวลา ในบางวันที่งานกองท่วมหัว แล้วพยายามขยันปั่นมันให้หมด ข้อมือมันก็จะถูกใช้งานแบบเต็มเหนี่ยว เลยทำให้ตอนนี้ปวดข้อมือชิบหายเลยโว้ยย...สาดดด

ใครเป็นมั่งยกมือขึ้น (มือซ้ายก็ได้ ถ้ามือขวาเจ็บ)

22.1.53

21.1.53

เอายังงี้ก็ได้วะ



ทำอะไรก็ไม่เข้าตาคน บางทีก็เบื่อ
บางทีก็รู้สึกรำคาญและเซ็งกับคำถาม
ที่หลายคนถาม..ว่าทำไม อะไร ยังไง? ?​ ?

เหตุผลเรื้อนๆ ของเรา
กลายเป็นคำถามงี่เง่าของเขาไป
หลายคำถาม บางทีก็ไม่อยากมีคำตอบให้
เพราะมันเปล่าประโยชน์ที่จะอธิบายให้เข้าใจตรงกับความคิดเรา
เป็นหมาขี้เรื้อนในสายตาคนอื่น หาที่นอนข้างถนนเอาก็ได้วะ

ปล. ชอบสติ๊กเกอร์ของพี่ LEE (hd-playdround) ชิบหาย
กูเป็นหมาขี้เรื้อนไม่มีวัดก็ได้วะ แสรด

14.1.53

ก็ช่าง...



มีความสุขดีที่เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนที่อยู่ข้างๆ
แม้ในบางเวลามันจะมองไม่ค่อยเห็นทางก็ตามที
วันข้างหน้าจะมีทางเดินหรือไม่มีทางเดิน
ก็ช่าง...

กาญจนบุรี 2010

13.1.53

ที่ของเรา



ย่างเข้าปีที่ 33 ของชีวิต มีหลายเรื่องให้ได้คิดและตัดสินใจทำมันลงไป ทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่ไม่ดี ซึ่งมันผ่านพ้นไปแล้วกับปี 2552 เริ่มต้นเดือนแรกของปี 2553 เรื่องราวที่เห็นจะเป็นเรื่องที่ใหญ่สำหรับเราก็คือ เราจะทำอะไร..เพื่อใคร? อาจจะดูไม่ยากสำหรับคนหลายๆ คน แต่สำหรับเรามันคือเรื่องนึงที่คิดมาตลอดเวลา และยากที่จะตัดสินใจ (ซักที)

บางครั้ง ที่ของเรา คนอื่นอาจมองดูว่ามันแคบและมืด แต่เรารู้สึกมีความสุขดีที่มองไม่ค่อยเห็นทางรอบข้างมีแต่ความว่างเปล่า ซึ่งเป็นสิ่งที่เราโหยหามาตลอดเวลา แต่บางช่วงบางทีก็มีความรู้สึกหวั่นๆ ว่าซักวันในอนาคตข้างหน้า ที่ของเราอาจจะไม่มีเขาอยู่ ทว่ามันก็คงเป็นแค่เพียงความกังวลในเสี้ยวเล็กๆ ของวันหนึ่งเท่านั้น

การอยู่ลำพังก็มีความสุขดีที่ไม่ต้องเป็นห่วงใคร เพราะไม่อยากให้ใครต้องมาห่วงเรา แต่มันก็กลัวความเหงาที่อาจเกินกำลังรับ แต่ถ้าหากได้อยู่กับคนที่เราคิดไว้ ก็กลัวความลำบากที่จะเกิดขึ้นกับเขาในอนาคตข้างหน้า แต่อีกนั่นแหละ มันก็เป็นแค่เพียงความกังวลในเสี้ยวเล็กๆ ของวันหนึ่งเท่านั้น

ได้แต่นึกอยู่เสมอเป็นการปลอบใจไปพลางๆ ว่า บางที
ในวันข้างหน้า
ที่ของเรา ... อาจไม่มีเขาอยู่
เพราะหากว่าเขา อยู่ในที่ของเขา คงสบายกว่าการมาอยู่
ในที่ของเรา..ก็เท่านั้น

มกราคม 2552

12.1.53

ชีวิตไม่ติดจีพีเอ๊ด



เมื่อวานเป็นวันที่ภาระชิ้นสุดท้ายได้หมดไปจากชีวิต คือการเป็นหนี้จากค่างวดที่ต้องส่งให้กับบริษัทไฟแนนซ์รถยนต์ทุกเดือน เราตัดสินใจขายคืนให้กับเต๊นท์พร้อมกับยื่นเงินแถมไปให้อีก 4 หมื่นกว่าบาท ถือซะว่าเป็นค่าเช่ารถยนต์ 7 เดือนก็แล้วกัน แพงหน่อยแต่ก็เป็นทางออกสุดท้ายที่สบายใจอย่างที่สุด

จากนี้ไปก็คงต้องกำหนดทางเดินเองในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเดินทางมาทำงาน การจับจ่ายใช้สอยในแต่ละวัน คิดว่ายากแต่ต้องทำให้ได้ ในหัวสมองตอนนี้ โล่ง และโปร่งมากกับการที่ไม่มีอะไรมาผูกที่ขาอีกต่อไป เดินไปไหนได้ด้วยตนเองแบบสบายใจซักทีไม่จำเป็นต้องใช้งานกับสิ่งที่เราคิดว่ามันเป็นส่วนเกินของชีวิตอีกต่อไป..

เย็ดเข้.....
ไม่มีหนี้แล้วโว้ยยยยย
สาดดดดดดดดด....

ปล. อะ ลืมสวัสดีปีใหม่ กับใครทุกคนที่ไม่ชอบการเป็นหนี้ด้วยครับ

6.1.53

ฆาตกรต่อเนื่อง


หลังจากอัพบล๊อค ปีใหม่ทำอะไรให้ตัวเอง? ผ่านไปได้ไม่ถึงอาทิตย์ ผมก็กลับเข้าคลีนิคทำฟันอีกครั้งครับ เพราะมีนัดกับคุณหมอแว่นไว้เมื่อวานนี้ (6/1/10) หลังจากเลิกงานก็ขับรถบึ่งไปคลีนิคหมอสถาพรทันที (เป็นคลินิกเดียวที่ผมยังไม่ได้เห็นหน้าเจ้าของตัวจริง เห็นแต่หมออื่นมาแทน) เวลานัดเฉาะฟันผมคือ 6 โมงครึ่งครับ ไปนั่งรอคิวประหารอยู่ได้ประมาณ 40 นาที เขาก็เรียกเข้าแดนเพื่อขึ้นเขียงที่ห้องเบอร์ 2

ภายในห้องนั้น เต็มไปด้วยอุปกรณ์การเฉาะฟัน ที่นั่งเรียงคิวยิ้มแป้นและพร้อมที่จะมุดเข้าไปทำการระเบิดฟันในอีกไม่กี่อึดใจ...วันนี้มาอุดฟันครับ... คือจากครั้งก่อนมันมีฟันผุอยู่ 2 รูที่คุณหมอแว่นสันนิษฐานไว้เมื่อคราวก่อน ไม่พูดพร่ำทำเพลง แกก็ง้างปากผมแล้วก็เอาเครื่องมือส่องเข้าไปดู ... เหมือนซานต้าแบกของขวัญมาให้ หมอแว่นคนสวยก็กระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบาว่า "โชคดีนะคะ วันนี้หมอเจออีก 1 รู" ...

ฉิบหายล่ะกู เตรียมใจมารับการเฉาะแค่ 2 รู แต่หมอดันตาดี เห็นเพิ่มมาอีก 1 รู โชคดีรับปีใหม่จริงๆ เอาก็เอาครับ ผมเลยบอกหมอให้โซโล่ได้ตามสบาย เวลาผ่านไปพร้อมกับเสียงเครื่องขุดเจาะ อี๊ดดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ในช่องปากราวๆ 30 นาที

บทสนทนาของผมกับหมอ และผู้ช่วยพยาบาลในวานนี้ เป็นไปด้วยความเป็นกันเอง สนุกสนาน เฮฮา หลังจากครั้งแรกรู้สึกตื่นเต้นกับการขูดหินปูน ที่ทิ้งช่วงมานานเป็นสิบปี ครั้งนั้นผ่านไปได้ด้วยดี มาครั้งนี้ก็อุดฟันเรียบร้อย เร็วกว่าครั้งแรกหน่อย แต่ก็ไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรทั้งนั้น ในใจก็คิดกระหยิ่มว่ากูรอดแย้ว ไม่ต้องเข้าคลีนิกทำฟันอีกแย้วว ต่อไปจะแปรงฟันให้เนียนทุกครั้งแย้ววว ไม่ต้องมาทรมานอีกแย้ววววว ไชแย้วววว...

เสร็จจากบ้วนปากครั้งสุดท้าย ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำฟัน คุณหมอก็ถามขึ้นมาอีกครั้งว่า "ฟันกรามด้านในขวาที่แตกเนี่ย ตกลงคนไข้จะให้ถอนหรือจะรักษารากฟันดีคะ????????" ....... ผมอ้ำอึ้งตอบคุณหมอไปว่า "ขอเวลาตัดสินใจอีกซักอาทิตย์ได้มั้ยครับ เอ่อออออ ที่จริงผมอยากรักษารากฟันมากกว่า แต่ถ้าจะถอน ผมขอไปทำใจที่บ้านก่อนได้มั้ย" (พูดไป หัวใจก็หล่นไปอยู่ที่ตีน)

คุณหมอแว่นยิ้มมุมปาก พร้อมส่งสายตาเพชรฆาตมายังคนไข้หนุ่มผมยาว ราวกับรู้จุดอ่อนของเขา แล้วกระซิบเบาๆ อย่างเยือกเย็นว่า "ได้ค่ะ แล้วเจอกัน...หึ หึ"
...เย็ดม่อน
>_<

5.1.53

เดาว่าโลกร้อน


ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ครับ สำหรับสภาพดินฟ้าอากาศของประเทศไทย ต้นพุทธศักราช 2553 .... ฝนตก!!! .... เมื่อเช้าขับรถมาทำงานเส้น ลาดกระบัง - อ่อนนุช ตั้งแต่ 7 โมงกว่า ท้องฟ้าครึ้มกว่าปรกติที่เคยเป็น จนขับมาได้ซักระยะ ปรอยฝนก็หล่นลงมากระทบกระจกหน้าทีละเล็ก ทีละน้อย

รถขยับเข้ามาในทางถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี เพื่อที่จะเข้ามามหาวิทยาลัย สภาพก็เป็นอย่างที่เห็นนั่นล่ะครับ เละเทะไปทั่วทั้งถนน ไม่งงกันแล้วใช่ไหมกับฝนฟ้าหน้าตาประหลาด ที่มาโชว์ตัวผิดฤดูกาลอยู่เป็นประจำในระยะหลังๆ (หมายถึงตั้งแต่ผมเริ่มอายุ 20) น่ะครับ นี่อีก 10 ปีข้างหน้าหิมะจะตกมั้ยวะเนี่ย ขนาดเดือนมกราคมซึ่งจริงๆ แล้วมันควรจะเป็นหน้าหนาวนะครับพี่ แต่นี่ฝนยังดันทะลึ่งตกได้ เดาว่าหิมะในอีก 10 ปีข้างหน้าก็ไม่แน่เหมือนกันนะ เอ้า ทำเป็นเล่นไป...

เอาวิกิพิเดียมาให้นั่งอ่านเล่นๆ กันครับ "โลกร้อน" ที่เขาเดากันไว้
ตัดจบแบบดื้อๆ นี่ล่ะ ดูแลตัวเองด้วยล่ะครับ อากาศมันเพี้ยนๆ
สวัสดี