28.12.53

ก่อนปีใหม่



อีก 3 วันก็ปีใหม่แล้ว ไปเที่ยวที่ไหนยังไม่ได้สรุปเลยเว้ยเห้ย (555) มาอัพบล็อคไว้ก่อนที่จะหยุดยาวๆ ปีนี้อาจจะไปโผล่ที่เดิมเหมือนปีที่แล้วหรือไปที่ใหม่ก็ได้ ป่านนี้แล้วยังไม่รู้ชะตากรรม เอาเป็นว่าปีใหม่ หากเที่ยวก็เที่ยวด้วยความระมัดระวังกันด้วยล่ะ ใครกินเหล้าเมา ก็ให้คนอื่นขับละกัน ขับด้วยตัวเองเดี๋ยวจะม้วยกันสียก่อนวลาอันควรด้วย (อย่าผวนน)

ยังไม่ทันจะข้ามศักราชใหม่ ข่าวอุบัติเหตุทะยอยกันมารายงานตัวกันเป็นว่าเล่น เที่ยวด้วยความสนุกและรอบคอบนะแจ๊ะ อากาศปีนี้น่าจะหนาวนะ (ปีที่แล้วแม่งก็หนาวแบบนี้ล่ะครับ) ก็ไม่เห็นแปลกอะเนอะ...
ไปและ แจ๊บส์ๆ... (เอ้า 555)

ตัดจบแม่งดื้อๆ

28 ธ.ค. 53
จะปีใหม่แล้วโว้ย
อยากขี่มอไซโว้ยยย

27.12.53

เดินเล่น



เมื่อวานไปเดินเล่นกับหญิงมาครับ (เดินจริงๆ นี่ล่ะ แต่เมื่อยไม่ใช่เล่นเลย) ที่ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และต่อด้วยเซียร์รังสิต (เดินอะไรหลายที่วะ 55) ได้ผ้าใบมาสองคู่ สีแดงดำและครีมลายตาข่ายกับกุงเกงสามส่วนอีกสองตัว หมดไปพันกว่าๆ แต่หญิงน่ะโดนไปหลาย ทั้งที่ของมันชิ้นละไม่กี่บาท 50 มั่ง 70 มั่ง (แต่เอา 50 หรือ 70 คูณด้วย 15 สิครับ)

ของขายร้อยละ 80% เป็นเสื้อผ้าครับ รองลงมาก็เป็นเครื่องประดับแล้วก็พวกรองเท้า กระเป๋า นู่น นี่ นั่น โน่น เยอะแยะไปหมด ถ้าตั้งใจที่จะมาล้มละลายที่ซียร์ หรือฟิวเจอร์ พาร์ครังสิต ท่านได้สิ่งที่ต้องการแน่นอนครับ เพราะอะไรๆ แถวนี้มันน่าซื้อไปหมดสิวะ เริ่มเดินตั้งแต่หกโมงเย็น จนจบภาระกิจที่เฉียดๆ สองทุ่มเท่านั้น (กู) แบกของกันมือเป็นระวิงทีเดียวเชียว ได้รองเท้าใหม่มาสองคู่ วันนี้เลยฉลองใส่ทำงานซะหนึ่งวัน ก่อนที่จะปิดยาวปีใหม่ในวันที่ 29 เดี๋ยวเอาใส่ท้ายรถเอาไปด้วย เผื่อไว้ใส่แอ๊กหมาแถวนั้นดู

ผู้หญิงนี่จะมีต่อมพิเศษอยู่ใต้ฝ่าเท้าครับ เมื่อมีตลาดนัดหรือสถานที่ช้อปละลานตาตั้งอยู่ตรงหน้า เธอจะลืมหมดทั้งชีวิต กด x เรียกของแล้วเพิ่มพลังชีวิตให้เต็ม level แล้วก้มหน้าก้มตา เดินๆๆๆๆๆๆ ซื้อๆๆๆๆๆๆๆๆ และช้อปแบบมหาประลัย

ส่วนผมแม่งเมื่อยโค่ดด แค่แว๊บเดียว เดินแค่นิดหน่อย
โดนไปแค่พันห้าก็ยังเหวอๆ อยู่เลยว่า อะไรวะ ของแค่ไม่กี่ชิ้นเนี่ยนะ
ไม่อยากจะคิดถึงหญิงที่โดนไปเฉียดหมื่น ของพะรุงพะรังเต็มมือ (กู)
ยังทำหน้าระรื่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในชีวิต เดินช้อปไปร้องเพลงลั๊นลาไป
ทำได้ไงวะ 555

ธันวา 53
รอ HD อยู่ด้วยใจระทึก

23.12.53

ในวันคริสมาส



ใกล้วันคริสมาสต์แล้ว มหาวิทยาลัยจัดงานวันที่ 24 ธ.ค. 53 เนื่องจากวันที่ 25 ซึ่งเป็นวันคริสมาสจริงๆ ดันตรงกับวันเสาร์ครับ ขืนจัดวันนั้นสงสัยได้ร่วมงานกับนกพิราบเป็นแน่แท้

หนึ่งประเพณีของที่ทำงานผม คือการมอบของขวัญให้กัน (ที่ไหนก็มีล่ะมั้ง) เดือนสุดท้ายของปีจะเป็นอะไรที่อิ่มหมีมากๆ ขนมเต็มห้องไปหมด เลือกกินกันไม่ถูก รวมไปถึงของขวัญชิ้นเล็กๆ จากอาจารย์ที่มาใช้ (งาน)บริการของออฟฟิศเรา ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกแก้วน้ำ ปากกา หรือสมุดจดจากใน bookstore นั่นล่ะครับ ซึ่งแน่นอน ผมเป็นคนออกแบบเกือบทั้งนั้น - -''

ซานตาคลอสของออฟฟิศผม ผ่านมาข้ามาในห้องคนแล้วคนเล่า หยิบของติดมือมาคนละชิ้นสองชิ้น เรียกว่าถ้าผมยังเป็นเด็กอายุซัก 10 ขวบล่ะก็ ยิ้มกันแก้มแหกทีเดียวครับ ที่นี่เป็นแบบนี้ ของเหลือเฟือจนบางครั้งต้องบอกอาจารย์ด้วยความเกรงใจ ว่าไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก แค่อาจารย์ยิ้มให้ผมก็พอแล้ว

แต่บางที่ คำว่าของขวัญนี่เป็นสิ่งที่แปลกปลอมสำหรับชีวิตมากนะครับ เหมือนที่บ้านนาแว อ.ฉวาง เมืองนคร นี่ล่ะครับ กล่องใบโตวางอยู่หน้าห้องถ่ายเอกสาร ถัดไปจากออฟฟิศผมนิดนึง สองวันก่อนเห็นมันเป็นกล่องเปล่าๆ ที่มีกระดาษแปะอยู่ข้างกล่อง ว่ารับบริจาคของที่ไม่ใช้แล้ว หรือยังไม่ได้ใช้ให้กับเด็กๆ ในต.นาแว เพื่อเป็นของขวัญวันเด็กในปีหน้า

มาวันนี้ กล่องใบโตเต็มไปด้วยตุ๊กตาที่ทำเอาผู้ชายแบบผม ต้องอมยิ้ม
แล้วแอบนิยมอยู่ในใจ ถึงจะไม่ใช่ธุระจากเรา แต่ก็น่ายินดีกับเด็กๆ ที่นาแว ด้วย
ว่าปีหน้าจะได้มีของขวัญเหมือนกับคนทางนี้บ้าง

มันเก่าน่ะไม่เท่าไหร่
แต่น้ำใจล้นออกมาข้างนอก
เห็นแล้วชื่นใจแทน

ธันวา 53
เมอรี่ คริสมาส ครับ

21.12.53

i love my space



ผมรักที่ว่างของผมนะ
มันมักจะมี space ให้ผมได้นั่งคิด
และได้นั่งเกลาความรู้สึกจากในที่ว่างนั้น

เสมอๆ

เวลามันผ่านไปนานมาก......

แต่ไม่ว่าครั้งใดที่หยิบเอามาคิด
เรื่องราวต่างๆ ที่ผุดขึ้นในหัวของเรา
เหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
แม้มันจะผ่านมานานหลายปีแล้วก็ตาม
























ที่ว่างของเราก็ยังคงเหมือนเดิม
ธันวาคม 2553

20.12.53

เปนตะกอน...







เมื่อวานซื้อ PENTACON Auto 2.8/29 mm Multi Coating (เลขเหี้ยไรเยอะแยะไปหมด - -') มาครับ
ราคาก็แค่ 2000 บาทเท่านั้นเอง ซื้อมาแล้วก็เลยถ่ายรูปมาฝากจ่ะ

(แปะรูปแล้วก็ชิ่ง แทนข้ออ้างว่าไม่ว่างเขียนบล็อค)
เมพฮิงๆ ก ู >_<

ธค. 53
มือหมุนทำให้โลกหยุดเคลื่อนไหว

17.12.53

หนึ่งปีที่ผ่านมา



แค่นั้นแหละ...
ธ.ค. 53

ปล. ข้ออ้างของการขี้เกียจเขียนบล็อค...คือการแปะรูป

13.12.53

มือหมุนทำให้โลกหยุดเคลื่อนไหว







ไปอ่างทองมาครับ แต่แวะหลงที่ลพบุรีเสียพักใหญ่ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันถึงได้เชื่อพิกัด GPS ผิดๆ ที่มีนักท่องเว็บบางคนโพสต์เอาไว้ แต่เอาหน่ะ หลงไปแล้วแต่ก็ยังมาถึงวัดม่วง วิเศษชัยชาญจนได้...

พกเลนส์ไปสามตัวเหมือนเดิม งัดเข้างัดออกๆ อยู่อย่างนั้นตลอดทริป ลำบากดีแต่ก็สนุกที่ได้มีสมาธิ หยุดฟังลมหายใจไปพร้อมกับหมุนเลนส์ในมือ ไม่ได้ดีกว่าเลนส์ออโต้ซักเท่าไหร่ เพียงแต่ว่ามันลดเวลารีบเร่งของเราให้ช้าและเนิ่บลง อย่างน้อยก็หนึ่งช่วงเวลาที่มือเราหาโฟกัสจากเลนส์

สามวันหยุดมีแต่เรื่องมากมาย ที่ทำให้คนใกล้ตัวได้กังวล ในขณะที่เราได้เพียงอธิบายสั้นๆ ว่า ไม่มีอะไร...
คนที่ไม่มีสีตรงกลางอย่างเรา จะอธิบายความหมายของคำว่า ไม่มีอะไร ให้ใครฟัง คงไม่มีคนเข้าใจ ว่าการไม่มีสีเทาของเรามันเป็นแบบไหน แค่เราคิดว่าขาวมันก็คือขาวโล่ง เมื่อดำก็ขอความกรุณาอย่าหาอะไรมาเจือ เพื่อให้มันจางลง..

แต่ทุกอย่างรอบๆ ขาวและดำของเรานั้น ไม่มีอะไรแฝงแม้เพียงซักนิด

ทุกครั้งที่ใช้มือหมุนเลนส์ หลายอย่างรอบตัวเราหยุดเคลื่อนไหว สมองไม่ได้คิดอะไรนอกจากวางขอบตากับช่องมองของกล้องเท่านั้น หลังจากเสียงลั่นชัตเตอร์ลั่นไปแล้ว ทุกอย่างก็จบ ผิดกับออโต้ฟกัสที่หลายคนใช้ คือยกเมื่อไหร่ก็ไม่ต้องคำนึง แค่ฟังเพียงเสียงเท่านั้น กดเมื่อไหร่ก็ชัด (เว้นแต่ว่าโฟกัสผิดจุด)

จะเลือกให้เลนส์มันกำหนดความชัดเจนให้กับเรา เหมือนกับคนทั่วไป
หรือเลือกที่จะหยุดหายใจ แล้วหมุนเลนส์ กำหนดทุกอย่างด้วยตัวเราเอง
คงต้องคิดกันอีก ว่า สีเทา สีอะไรถึงจะพอดี
หรือจะกลับเป็นขาว-ดำ ของเราอย่างเดิม

ธค. 53

7.12.53

มีไว้อุ่นใจๆๆๆๆๆๆ







long week end ที่ผ่านมา ลงทุนซื้อ GPS ครับ เนื่องจากว่าที่เที่ยวในสมองเริ่มซ้ำกันแล้ว (555) เอา GPS มาเป็นข้ออ้างในการนำทางซักหน่อย หลังจากจะซื้อ ไม่ซื้อ อยู่นานสองนาน ศุกร์ที่ผ่านมา (กู) ก็ซื้อจนได้ ราคาไม่แพงมาก 5900 บาทสำหรับรุ่น GARMIN Nuvi 1250 ที่ผมเลือกมาใช้งาน

หน้าจอขนาดเล็กกะทัดรัด แต่วางเกะกะหน้ารถชิบหายครับ (เอ้าจริงๆ) คือแรกๆ คงยังไม่ชินนั่นแหละ ก็เลยดูแล้วขัดตายังไงก็ไม่รู้
เดิมทีเดียวที่ไม่มี GPS ผมไปแบบสุ่มๆ ครับ คือด้วยความจำอันแสนสั้น และการคาดเดาที่ห่วยบรม ผมก็เลยเป็นมนุษย์ที่ไม่กล้าไปในที่ๆ รู้สึกแบบว่า...เห้ย ที่นี่แม่งที่ไหนวะ

55 คือพอรู้สึกแบบงั้นปั๊บ กูกลับดีกว่า

ได้ GPS มาก็เหมือนลิงได้ขวดโค๊กครับ นี่มันอะไรกันนักวะเนี่ย ปุ่มห้าอะไรเยอะแยะตาแป๊ะไก๋ไปหมด ใช้เวลาบ้าเห่ออยู่ได้พักเดียวก็เริ่มที่จะรู้จักกับมันครับ เริ่มพูดเพราะๆ เคาะวรรคเว้นบรรทัดให้ GPS มันได้นำทางบ้าง อะไรบ้าง แล้วก็เริ่มปฐมฤกษ์เบิกเนตร (555) เริ่มใช้งานนั่นแหล๊ะ

เอาครับ กูมี GPS แล้ว สามารถกลับบ้านกี่โมงก็ได้ โดยไม่ต้องห่วงค่ำมืดจะมองไม่เห็นถนนเหมือนเคย เพราะ GPS มันจะพาเราไปเอง ชะเอิงเงย เปิดทริปก็ล่อไปซะงอมพระราม ไล่จากเล่ง เน่ย ยี่ 2 แถวบางบัวทองครับ โถ่ถังกะลังมังรั่ว วัดแม่งอยู่แค่เอื้อม (555) คือตรงผ่านข้้าง ม.เกษตร บางเขน แล้วก็วิ่งตรงอย่างเดียวครับ ดูป้ายข้างทางเอา (ฮี่โถ่)

ที่ๆ สองหลังจากเล่งเน่ยยี่ก็เป็นตลาดน้ำคลองลัดมะยมครับ เอออันนี้ยกความดีให้ GPS เพราะชาติหน้าก็ไม่รู้ว่าผมจะรู้จักไปที่ๆ แห่งนี้หรือเปล่า .. เอกชัย - บางบอน กูจะไปยังไงครับในเมื่อชื่อก็ยังเพิ่งรู้จักได้ไม่นาน มาถึงแล้วก็กินๆๆๆๆๆๆ โซ้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
จนจบทริปวันแรก

วันที่สองนี่เริ่มผยอง สั่งงาน GPS อย่างเต็มที่ เห้ยไหนพากูไปตลาดน้ำตลิ่งชันเด๊แสดดดด..ๆๆๆๆ

ปายๆๆๆๆ กินๆๆๆๆๆ กลับๆๆๆๆ
ไปต่อๆๆๆๆๆ ตลาดน้ำอัมพวาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โอยใกล้ๆๆๆๆ ไปง่ายๆๆๆๆๆๆ

ปายๆๆๆๆ กินๆๆๆๆ ดึกแล้ววๆๆๆ
ช่างมันๆๆๆๆๆ กูมี GPSๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อุ่นใจๆๆๆๆๆ ขับกลับบ้านสองทุ่ม ชิวๆๆๆๆ

ไขว่ห้างด้วยนะเอ้า
ไม่เชื่อซื้อ GPS มาใช้กันดูดิๆๆๆๆๆ

ธค. 53

2.12.53

ถ้าชอบก็ขอบคุณ









ย่างเข้าเดือนใหม่แล้ว อีก 20 กว่าวันก็จะปีใหม่แล้ว (โว้ย) อากาศยังคงหนาวๆ ร้อนๆ เหมือนเดิม ทำตัวรับลมหนาวกันแทบไม่ทัน เดือนนี้ซื้อเลนส์มา 2 ตัวแล้วจ้ะ คือ Tokina 12-24 mm f4 สอยมาจากนักกีฬาเบสบอลทีมชาติ (เชียวนะมึง) ภูมิใจยิ่งนัก อิอิ

เมื่อวานก็ไปเสียบ Carl Zeiss มาซะ 1 ไม้ครับ ระยะ 50 mm f2.8 แบบมี Adapter และ ship ในตัว (เลนส์ Manual น่ะครับ มี ship ก็ง่ายต่อการฟังเสียงโฟกัสหน่อย) เลนส์สองดุ้นราคารวมกันไม่ถึง 15000 บาท ดีนะที่ไม่เลือกเลนส์ AF ยี่ห้อดังๆ เพราะตัวนึงก็คงปาเข้าไป 20000 กว่าแน่ๆ (เล็ง 10-22 canon ไว้) ถ้าซื้อล่ะป่านนี้แทะตอม่อบางนาเล่นแทนข้าวกลางวันไปแล้ว - -'

สามรูปด้านบนเป็นผลงานของ Carl Zeiss 50 mm f2.8 ครับ เลนส์เก่าแต่โฟกัสยังคงคมกริบ สีที่ออกมาถูกใจเฮียเมพเป็นอย่างยิ่ง ถึงจะไม่ถูกใจโปร แต่ถูกใจโก้ก็พอแล้ว ส่วนรูปล่างสุดเป็นฝีมือของ Tokina 12-24 mm f4 ครับ ตัวเลนส์ถึงจะหนักไปหน่อย แต่ก็พออนุญาตลืมความผิดได้ ด้วยสีสันและมุมของรูปที่เห็น ไม่กว้างเกินไป กว้างแค่พอใจก็โอเค (อร๊ายยย)

เป็นครั้งแรกที่คิดจะเล่นเลนส์มือ 2 ต่างค่ายที่ไม่รู้จักเหมือน Tamron, Sigma และก็เป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่เล่นเลนส์มือหมุนครับ ผลที่ได้ก็ออกมาเกินความคาดหมาย เดี๋ยวหาซื้อ 135 mm มือหมุนอีกยี่ห้อมาหมุนเล่นดีกว่า เฮียเมพชอบกิงๆ กฎไม่ต้อง รูปส่วนใหญ่ของผมนั้นมั่วล้วนๆ อย่าถามว่าวัดแสงตรงไหน และทำไมถึงเลือก f เท่านี้ หรือ speed แค่นั้น ผมทำแค่มอง เห็นแสงที่ลอดผ่านใบไม้ มือหมุนเลนส์ สมองคิดตาม..เท่านั้น

ได้รูปที่ชอบผมก็ดีใจ แล้วก็จบ
คนมองรูปผมแล้วชอบก็ขอบคุณ
จริงๆ นะ

ธันวา 53
หนาวนี้ไม่มี HD
หนาวหน้ามาเต็ม