30.3.61

ตาย เสียก่อน ตาย








ตายเสียก่อนตาย

ชีวิตคนเรามี 4 ช่วงเกิด แก่ เจ็บ ตาย
อันนี้จริงแท้ แม้จะหนีก็ไม่พ้น

สองอาทิตย์ หลังจากที่แม่
เกิดอาการภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน
เกิดลิ่มเลือด(deep vein thrombosis) 
และติดเชื้อ

ทำให้แก ไข้สูง เบลอ ควบคุมตัวเองไม่ได้
พีคสุดก็คือ เข้า .หลังจากไม่ได้เข้ามา 16 ปีละ
และเกือบตายเป็นครั้งที่ 4

ใช่แม่เกือบตายมา 4 ครั้ง 
ที่จริงแล้วสามครั้งนั้นแกตายเลยแหละ 
แต่ปั๊มหัวใจไว้ทันครั้งแรกนี่ไม่เห็น
มาเห็น 2 ครั้งหลังนี่ล่ะจะจะ 
ว่าอาการคนเกือบตาย เป็นยังไง
ดีที่ลิ่มเลือดไม่วิ่งขึ้นไปในปอด 
ไม่งั้นล่ะลาโลก 5555

โชคดีที่เราสองคนเข้าใจกันเรื่อง
ความตาย ว่า ตายไปแล้วสบายอย่างไร
(สบายจริง แม่เคยบอก)

"แล้วแม่อยากได้โลงแบบไหน?"
นี่ถามแม่ตอบว่า ไม่อยากได้
เพราะบริจาคร่างกายให้ รพไปแล้ว

พอตายเสร็จ ให้โทรถาม ถ้า .เขารับ
ก็ส่งไปเป็น "ครูใหญ่สอนเด็กต่อไปอีก 2 ปี
หลังจากนั้น ก็วานให้เขาเผา
เก็บกระดูกไปโปรยลงทะเลให้หมด ไม่ต้องเหลือ

ถ้าเขาไม่เอา ก็สวดสามวันแล้วเผา
เยดเข้ นี่แหละแม่กูเอง
ผมถามแกกลับไปสั้นๆ ว่าเอางั้นนะ?! 
แม่ตอบ เอางั้นล่ะ เราก็พยักหน้าหงึกๆ

โอเค งั้นก็ตามนั้น
แล้วพบกันวันตายนะแม่ 
แต่ใครจะตายก่อนก็ไม่รู้นะ 5555

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้
เตรียมตัวกันไว้บ้างหรือยังครับ
มี.. 61
รูปถ่ายที่ภูชี้ฟ้า (ป้ายหราขนาดนั้น)
ทำปากเลียนแบบแม่

26.3.61

ในวันที่แม่กลับมาป่วย









ภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน 

ไม่คิดว่าแม่จะเป็นโรคที่เท่ห์ ลำดับที่ 3 ต่อจาก

16 ปีผ่านไป หลังจากแม่เป็นมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนที่ต้นขา
และหมอตัดไอ้ก้อนเนื้อเยื่อนั่น(2.4 กิโลกรัม)ทิ้งไป 
แม่ก็ไม่เคยเข้าโรงพยาบาลอีกเลย จนกระทั่งเมื่อสามสี่วันก่อน  
เราพาลูกเมียไปนอนบ้าน เช้ามาทำงาน - พ่อไลน์มาแจ้งว่า 
จะพาแม่ไปเช็คที่โรงพยาบาล เพราะแก
- ซึม ไม่ลืมตา
- ขาร้อน (ไอ้ข้างนั้นล่ะ)
- อ้วก (อันนี้ประเด็นใหม่)

ไปถึง ร.พ. หมอไม่รอคุย สั่งแอดมิตโล่ด (555555) ดีเหมือนกัน คือ อย่างน้อย
ครั้งนี้ เราไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไร แค่เดาไปต่างๆ นานา เพราะอาการของแม่
เท่าที่เราไปเห็นช่วงบ่าย -- แค่ช่วงเช้าถึงบ่ายเองนะ

// ที่โรงพยาบาล //
- แม่นอนกึ่งหลับกึ่งตื่น
- กระสับกระส่าย กระวนกระวาย
- พูดไม่เป็นภาษา
- ขาร้อนมากกกกก
- ไข้สูง
- มีภาวะเบลอ

ชิบหาย --- เป็นครั้งแรกที่เรานึกแบบนี้ และรู้สึกได้ว่า "แม่เป็นเยอะ"
อาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับแม่แบบนี้ เราไม่เคยเจอ เลยช่วยกันหาข้อมูล (กับพ่อ)
ทั้งโทรเช็คศิริราช กับพี่สาว // หาในเนท 

ก็ประมวลความได้ว่า -- แก (อาจจะ) ติดเชื้อโรคจากการ แกะหูดใต้ฝ่าเท้าด้านที่แกเคยเป็นมะเร็ง
จึงทำให้เชื้อโรคมันกรูกันเข้าทางนั้น ทำให้แม่เกิดอาการไข้อย่างรุนแรง

หลังจากลุ้นแม่เป็นครั้งแรกในชีวิต ว่า "จะไหวไหม" นั่งข้างๆ
ได้จับมือแก พูดว่า -- แม่ตั้งสติ รู้เจ็บ รู้ความเป็นไปของร่างกายตัวเองดีๆ นะ
พ่อกับเรา ตัดสินใจ ไม่รีเฟอร์ไปศิริราช - ไม่พาไปนอน รพ.กรุงเทพ
ซึ่งอาการก็ผ่านพ้นไป ด้วยความโล่งใจที่ดี ขั้นตอนต่อไปเป็นเรื่องของ

การ X-ray เพื่อดูผล จากปอด / ส่วนเลือดนั่นรู้แล้วว่า มันเป็นลิ่ม
ดีที่มันไม่ได้ไปทิ่มในปอดแม่ ไม่งั้นบล็อคนี้คงเป็นแค่การ อำลา มากกว่าการมา
เล่าให้ฟัง

ปีนี้ลุ้นแม่ ลุ้นคนรอบข้างด้วย 73 กันแล้ว
เราไม่ได้ช่วยอะไร แค่ช่วยให้กำลังใจ อันนี้ดีกว่ายา

nuugo.blogspot.com

14.3.61

ปิดเทอมลูก




















ปิดเทอมของเรา
-------------------
ปีนี้พักร้อน พาลูกไปนอนจันทบุรี
เมืองที่ ร้อน-แห้ง-เค็ม ติดทะเล
ปกติไม่ชอบทะเลเป็นทุนเดิม
พอพาลูกไปเที่ยว
-- ก็ยังเหมือนเดิมแหละ
55 จริงๆ คือมันร้อนไง
-------------------
ดีอย่างที่ปีนี้ (ไหนๆ ก็ร้อน) แล้ว
ก็เลยตื่นเช้า ออกไปวิ่งทุกวัน
จากแหลมสิงห์ - ท่าใหม่ - คุ้งกระเบน
ไม่คิดอะไรมาก ถือเป็นการซ้อมขาไปในตัว
-------------------
สิ่งที่ชอบตอนวิ่งคือ นี่ได้อยู่กับตัวเอง ตามที่ต้องการ
-- เหมือนเคย
-- เพิ่มเติมคือลูกเมียยังไม่ตื่น -- รู้สึกแฮปปี้ดี เพราะ
เราแค่ -- หาเวลาของเรา ให้เจอเท่านั้น
โดยไม่กระทบสองคนนั่น (ที่กำลังหลับ 55)
ชีวิตมันก็ ไม่ได้เสียอะไรไปซักเท่าไหร่

ยกเว้น ลูกตื่นเร็วแล้วมันโทรมากดดัน
บอกให้ปะป๊ากลับมาได้แล้ว (สับ เพซ 5 ได้)
-------------------
สนุกนะ ที่ได้ไปทะเลรอบนี้
ถึงแม่งจะร้อน
-- หมือนเคย
ก็เหอะ -- เมื่อไหร่ทะเลจะหนาวมั่งวะ

มี.ค. 61