29.3.55

ดูแล



เรื่องของเรื่องคืน ไอ้ล้อหน้าสปริงเกอร์มันแกว่งครับ ด้วยเพราะเหตุอันใดก็มิทราบได้ แต่หลักๆ แล้วเดาว่าเกิดจากร้านไอ้หอกหักแถวแยกวังหินนั่นแหละ (ไม่อยากเอ่ยถึงเยอะ คันปาก) เป็นตัวการ

ความที่ผมเป็นคนที่ เห็นอะไรไม่ได้ดั่งใจแล้วมันนอนไม่หลับ บวกกับอาการล้อหน้าแกว่งตอนขี่รถ มันเป็นเหตุแห่งการคว่ำข้าวเม่า ก็เลยลองหาข้อมูลร้านที่รับแก้ไข และจัดการกับช่วงหน้าสปริงแบบนี้ ได้มาร้านนึงแถวสุทธิสาร ซึ่งก็ได้เอารถไปให้เขาโซโล่เรียบร้อยแล้ว รอเพียงรับตัวกลับมาแค่นั้น

จะดี ไม่ดี หรือยังไง

อันนี้วัดดวงล้วนๆ ครับ ไม่รู้จะโดนแหกเนตร หรือ โชว์เหนือจริงๆ อย่างใดอย่างหนึ่งก็ไม่แน่ใจ
แต่รถที่มาอยู่ในค่าย ส.วรกิจ ทุกคัน ไม่ว่าจะกี่ล้อก็ตาม จะต้องเนียน!! เข้าข่ายชิบหายไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้

ถึงรถทุกคัน มันจะอยู่กะกูได้ไม่นานก็เถอะ (555555)
แค่คนที่ซื้อต่อไป สรรเสริญลับหลังก็ยังดีวะ

มีค. 55

ตะปิงเก้ออววววว~

ปล. ดูอย่างไอ้เต่า คุณนายประหยัดนั่นเป็นตัวอย่าง ไล่เก็บซะจนเนียน ขับไม่เคยงอแง ตอนอยู่กับเจ้าของเก่าแม่งห่วยสาด ไม่รู้ซื้อรถมาดองให้เจ๊งทำแมวอะไร ต้องกูนี่ ดูไว้ (555)

ปลล. มีอะไรไว้กับตัวเอง ไม่ว่าจะคน หรือ ของ ถ้าดูแลได้ก็ดูแลกันเต็มเหนี่ยวฮะ พามาแล้วทิ้งๆ ขว้างๆ เดี๋ยวหมามันจะด่าแม่เอา

23.3.55

สิ่งที่ดีที่สุด



หลายวันก่อนไปซื้อแหวนพระ ที่ร้านทองแถวบางบ่อมาครับ ด้วยความที่ว่าเห็นแหวนวงนี้มาตั้งแต่เข้าร้านทองร้านนี้ครั้งแรกๆ เพราะเป็นหัวแหวนหลวงพ่อโสธร ผมก็เลยเกิดความต้องการที่จะนิมนต์ท่านกลับแปดริ้วด้วยตัวเอง (ท่านอยู่บางบ่อมานาน อาจจะคิดถึงบ้าน) ก็เลยใช้เงินที่พอมีอยู่ เช่าแหวนวงนี้ออกมา แต่เนื่องจากมันมีขนาดใหญ่กว่านิ้วผม ก็เลยต้องมีการปรับขนาดด้วยการลดเส้นรอบวงลงซักเล็กน้อย

อาทิตย์ถัดมาก็ไปรับท่านกลับบ้าน แล้วนิมนต์ใส่ไปในนิ้วกลางข้างขวา (แม่เคยบอกว่า ข้างซ้ายใส่แหวนพระไม่ได้ เพราะอะไรต้องนึกเอาเอง) แหวนแม่และแหวนยาย ก็จำต้องอัปเปหิจากข้างขวา ไปอยู่ข้างซ้ายแทน (แล้วยายไม่ด่าตายห่าเรอะแม่) สัมผัสแรกที่เห็นแหวนก็รู้ได้ว่า "มันไม่เนียน" ครับ จะเนื่องจากอะไรก็แล้วแต่ ความไม่เนียนของหัวแหวน ก็ทำให้หญิงกับผม เสวนาจนเกือบจะกัดกันอยู่พักใหญ่

ว่าด้วยเรื่อง "การส่งแหวนกลับไปแก้ไข" ในความคิดของแฟนผม ก็คงอดรนทนไม่ได้นั่นล่ะครับ ที่จะเห็นแหวนทอง ราคาตั้งหลายหมื่นมันขี้ริ้ว ขี้เหร่ ขนาดนี้ เธอแนะนำให้กลับไปทำอย่างที่บอก ผมก็ได้แต่พยักหน้ารับ หงึกๆ เพียงเท่านั้นr

ลำพังสายตาของผมก็เห็นนั่นล่ะครับ ว่ามันไม่เรียบเนียน และดูไม่สวยเอาเสียเลย แต่ในความคิดของผมที่มีต่อแหวนวงนี้ มันเป็นอีกอย่าง ผมเลือกมองในสิ่งที่มันดี และตนเองเห็นว่าสวยงาม ณ ด้านใด ด้านหนึ่งของสิ่งๆ นั้น มากกว่าที่จะกลับไปทำให้มันสมบูรณ์ไปเสียทุกด้าน เพียงเพราะแค่เราเห็นว่าไม่ดีที่สุด ที่คิดออกมานี่ ก็ไม่ใช่จะว่าใครนะครับ แต่ด้วยความเป็นเรา มันคิดแบบนั้นเสียทุกเมื่อเชื่อวัน ก็เลยอดที่จะมาบันทึกไว้ไม่ได้

คือ ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่มีอะไรที่มันร้อย % ไปซะหมด คนทั้งร้อยคนที่เราเห็น ใช่ว่าทั้งหมดจะเป็นอย่างที่เราคิด นิสัยใจคอจะตรงกับสิ่งที่เรามอง

จริงอยู่ที่ว่า แหวนมันไม่สวยครับ ... แต่

- อย่างน้อย เราก็ได้รู้ข้อนึงของความจริงบางอย่างว่า แหวนขี้เหร่ๆ ที่ผมใส่ ช่างร้านนี้ไม่เก่งเรื่องทำหัวแหวนหรอก แต่อาแปะ อาม่า เจ้าของร้านทอง อัทธยาศรัยดีกว่าร้านทองที่เราเคยเจอหลายร้าน ที่มองแม้กระทั่งเสื้อรูๆ ของผม (กูพกเงินไปแสนกว่านะเว้ยสาด) ที่วางถาดใส่หน้าแม่งซะยั่งงั้น ในขณะที่เราพูดเพียงว่า "ขอคิดดูก่อนนะครับ" แล้วผละออกจากร้านเท่านั้นเอง

- อย่างน้อย ผมก็ได้รู้ข้อนึงว่า ถึงแหวนผมจะไม่สวย แต่นี่มันก็เป็นความตั้งใจที่จะเก็บหอม และรอมริบ สิ่งที่เรียกว่า อนาคต ที่กำลังมาในไม่ช้า มันดีกว่าเป็นไหนๆ

ก็จริงอย่างที่หญิงบอกน่ะแหละ ร้านที่ทำดีกว่านี้มีตั้งเยอะแยะ และ ร้านอาแปะอาจจะแก้ไขให้มันกลับมาเรียบเนียนกว่านี้ได้ (หรืออาจจะเพลียกว่าเดิมก็ไม่รู้)

สำหรับเรา สิ่งที่ดีที่สุด คงไม่ใช่แหวนที่สวย แต่มันคือสิ่งที่ได้ทำตามความตั้งใจ
นอกเหนือจากนั้นจะมีอะไรแถมมาให้ ก็แล้วแต่วาสนาเถ้อะ

มีนาคม 2555

ปล. คราวหน้าถ้าจะทำอะไรแบบนี้ จะบอกร้านทองล่วงหน้าว่าของานเนียนๆ นะครับ แต่ถ้าออกมาไม่เนียนเท่าที่ใจคิด ก็จะพยายามเข้าข้างตัวเองว่า คงได้แค่นั้น

20.3.55

รักในมุมเดิม




วันก่อนนั่งคุยกับหญิงบนรถ ถึงเรื่องที่ผมนั้นเป็นมนุษย์ประเภท ซื้อแล้วก็ขาย ขายแล้วก็ซื้อใหม่อยู่ร่ำไป พาลให้ได้นึกถึงสิ่งหนึ่งที่เกิดกับตัวเองเสมอ นั่นก็คือ

ผมรักในสิ่งเดิมๆ ครับ...

ก่อนหน้าที่จะชอบอะไรซักอย่าง ผมจะหมกมุ่นอยู่กับสิ่งนั้นเป็นเวลานานพอสมควร เรียกได้ว่าสมาธิทั้งหลายได้หยุดนิ่งอยู่กับมันตลอดเวลา เคยเล่น BBGun มาระยะนึง แล้วก็วนๆ เวียนๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่อย่างนั้นโดยไม่เบื่อ เรื่องเงินทองกับการแลกเปลี่ยนของนั่นไม่ต้องพูดถึงครับ เพียบ

แต่ส่วนใหญ่มันมักจะเกิดจากความ ตื่นตาตื่นใจ ของผมที่ได้เจอของใหม่ในเรื่องเดิมทุกครั้ง ซึ่งถ้าให้นับกันจริงๆ แม่งก็ปืนคือเก่าล่ะวะ ไม่รู้มันจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทำห่าอะไรเยอะแยะนักหนา (555)

ก็มีความสุขนี่หว่า ทีไ่ด้หยิบจับ และได้ใช้ปืนตั้งหลายประเภท

รถมอเตอร์ไซค์ และ รถยนต์ ก็เหมือนกันนะครับ ฟิลลิ่งเดียวกับการเล่นปืนเลย ซื้อมาขายไป ซื้อไปขายมาแม่งอยู่นั่นแหละ นี่ยังไม่รวมถึงกล้อง DSLR ที่เรียกได้ว่า กูผ่านมาแล้วทุกย่านน้ำ (555)

เมื่อวานบน facebook รูปถ่าย Heritage Springer บนเขาใหญ่ที่ผมลงไว้นานแล้ว มีรุ่นพี่คนนึงเข้ามาทักว่า..."มุมเดียว มุมโปรดสำหรับเมียทุกคัน"... เลยทำให้นึกได้ว่า เออ กูนี่ก็บ้าเก็บรูปมุมเดิมๆ เนาะ ว่าแล้วก็ไปควานหารูปรถที่ผมเคยขี่และที่มีอยู่ มาวางเรียงกันสามรูป


สัดเอ้ย เป๊ะเลย 5555
กูนี่แม่งคงบ้าแน่


มีนาคม 2555

ปล. ขึ้นเขาใหญ่เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น มุมนี้ต้องโดนผมครับ ก็คนมันชอบนี่หว่าทำไงได้ ขนาด March กูก็ยังถ่ายมุมนี้ (555)
ปลล. ถึงจะวนเวียนจนน่าเบื่อ แต่ก็มีอยู่ไม่กี่เรื่องที่ให้ความสำคัญทุกครั้งที่ได้เจอ แล้วเค้าก็ไม่เคยเบื่อเลยแหละ แอร้ยยยย~

14.3.55

เผื่อไว้ในวันข้างหน้า



เรื่องก็คือ ขายเต่า ไปแล้วน่ะครับ มีเงินก้อนนึงอยู่ในมือ ซึ่งทำอะไรตามใจคิดได้หลายอย่างมาก และทุกอย่างล้วนเป็นกิเลสทั้งนั้น แต่สิ่งที่แปลกก็คือ คิด ครับ เมื่อก่อนมีเงินไม่เคยคิดว่า ข้างหน้าจะทำยังไง อยากได้อะไรซื้อดะ (เดี๋ยวนี้ใช่ว่าจะหาย แสดด) แต่ก็เบาลงกว่าเมื่อก่อนเยอะแหละ

คือมันมีบางเรื่องที่ต้องคิดให้จงหนัก และควรลงทุนอย่างคุ้มค่า.. ไม่สิ เรียกลงทุนกับอะไรแบบนั้นไม่ได้ ต้องเรียกว่า วางแผนอย่างรอบคอบ (โคตรดูดี 55) เออแหละครับ ก็ต้องวางแผนกันบ้าง เพราะมีงานใหญ่รออยู่อีกไม่กี่เดือน

แหม แต่ถ้าได้ใช้ มันก็เหมือนคนติดเฮโรอีนได้เสพยาซักปื้ดดด
คงโล่งพิลึก รถไม่ได้ซื้อ ขอมอไซค์มินิก็ยังดีวะ 55

มาบ่นให้ดูดีทำเหียกอะไรไม่รู้


มีนา 55

กำเงินไว้ ใจแน่วแน่
หลังคาถลก เมื่อไหร่ก็ซื้อได้ถ้าไม่คิด
ช่วงนี้คิดดี ขี่ควายไปก่อน

ปล. ขี่ตะปิงเกอร์ผ่านสะพานข้ามทางรถไฟแถวทับช้าง
เห็นพระอาทิตย์โบกมือลาเลยจอดเก็บภาพซะหน่อย รถจะเอาไปแดกตายห่า

9.3.55

บางแสนไบค์วีค



ดูฟ้าประเทศไทย
วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2555
แม่งเอ้ย 5555

ปล. 9-10 มีนาคม 2555 งานบางแสนไบค์วีค ครับ เมื่อก่อนไปทุกปี แต่ช่วงหลังนี่ไม่ได้เข้างาน เตร่อยู่บริเวณรอบๆ เพราะรถเยอะและมั่วมาก ปีนี้ก็เช่นกัน คงไปแค่แว้บนึงแล้วก็กลับ

ปลล. ออกตัวดึกหน่อย ตอนพิมพ์อยู่นี่ฝนก็ลงไปแล้วทั้ง แปดริ้ว พนมสารคาม หนองจอก ชลบุรี ... โชคดีล่ะครับผู้จัดงาน

มีนา 55

ว่าแต่ว่า ตอนนี้กูจะขี่มอเตอร์ไซค์กลับยังไง ฝนแม่งดักซะขนาดนี้ -"-

6.3.55

no limit








เริ่มต้นเดือนมีนาคมได้มันส์มากครับ คือเมื่อวันพฤหัส-อาทิตย์ ที่ผ่านมา ขี่รถไปงานแต่ง ไล่มาตั้งแต่ สระแก้ว มาถึง อ.สูงเนิน และ อ.โชคชัย เมืองโคราช รวมสามวัน สามที่ 800 กว่ากิโลเมตร เป็นงานของรุ่นน้อง และ รุ่นพี่ ที่สนิทกันทั้งสามคน แล้วยังมาจัดงานติดกันตั้งแต่วันที่ 1-2-3 มีนาคม เข้าให้ ก็เลยเลี่ยงไม่ได้ (ความจริงเลี่ยงได่้แต่ไม่เลี่ยง)

วันแรกที่ไปสระแก้ว ขี่สปริงเกอร์จากบ้านแต่เช้า ไปเจอกับเพื่อนที่แปดริ้ว แต่รถดันงอแงก็เลยต้องซ้อนเป็นสก๊อยท้ายรถเพื่อนไป หลังจากจบงานแรก รถเสร็จเรียบร้อยก็รับงานที่สองต่อทันที รอบนี้บินเดี่ยวจากลาดกระบัง - สระบุรี - ปากช่อง - สูงเนิน เพื่อไปงานที่แรก และงานที่สองหลังจากสี่โมงเย็นของวันนั้น บึ่งรถไป อ.โชคชัย ที่อยู่ห่างจากสูงเนิน 50 กม.

วันสุดท้าย จากที่มาทางสระบุรี ก็อ้อมกลับไปทาง ปักธงชัย นึกภาพตามว่าผมขี่รถเป็นเส้นวงกลม จากซ้ายไปขวา นั่นแหละ (แม่งถึกจริงๆ กู)

เพื่ออะไรวะเนี่ย...? ไม่รู้เหมือนกัน ตอนไปไม่ได้คิด รู้ว่าอยากไปก็ไปครับ เท่านั้นล่ะ

ปล. เหมือนที่แม่ผมเคยบอกไว้ว่า ชีวิตผมเนี่ยมีเพื่อนแค่ 20 คน (สมมตินะ) แต่ผมไปงานเพื่อนทั้ง 40 คน ... งงมั้ยล่ะ
ความหมายของแม่ก็คือ ไม่มีงานไหนของเพื่อน ที่กูไม่ไป (555)

ปลล. รูปเดี่ยวบนรถ พี่อุ้ยถ่ายให้ตอนขี่จากบ้านเจ้าสาวพี่แง๊ง ไปบ้านพี่แง๊ง (รุ่นพี่ผมชื่อ แง๊งงงง งงล่ะสิ อิอิ)

มีนา 55
เมื่อยสาด