21.11.57

เลน ที่เป็นไปไม่ได้








ออกจากบ้าน ตี 4.55 มุ่งหน้ามีนบุรีเหมือนเคย
แต่วันนี้ลองเปลี่ยนทางวิ่งจากสุวินทวงศ์ เข้ามาทางร่มเกล้าแทน

เช้าๆ รถเยอะมาก แต่แลกกับอากาศที่เย็นลงก็พอทำใจไหว ปั่นกะย๊องกะแย๊งมาเรื่อยๆ จนถึงไฟแดงใหญ่ ตรง Airport Link ลาดกระบัง ก็ได้เวลาจอดถ่ายรูปซักนิด

รถใน กทม. แม่งขับกันยังกับจรวดติดเทอร์โบครับ
เห็นท่านผู้ว่า กทม ว่าจะออกกฏระหว่างเลนจักรยาน กับ รถใหญ่ ว่าห้ามมาก้าวก่ายกัน
แล้วก็ได้แต่ส่ายหัว

ช้าไปแล้วครับทั่น...

กทม เลยจุดที่จะสร้างเลนจักรยานเพื่อประโยชน์ของคนรักการปั่นซะแล้วแหละ
เพราะคนส่วนใหญ่ที่ปั่นจักรยาน เขาใช้เส้นทางลัดกันเพื่อการเดินทางเกือบทั้งหมด
ยกเว้นก็พวกคนกวาดถนน ยาม หรือแรงงานพม่า ที่ยังคงจำใจต้องใช้เส้นทางหลักร่วมกับรถยนต์

บางทีย้อนศรกันมาเป็นกิโล ก็เพียงเพราะต้องการความปลอดภัยกว่าการเสียเวลาไปยูเทิร์น 8 กิโลข้างหน้า ซึ่งในความเป็นจริงอันโหดร้าย การย้อนศรนี่ล่ะแม่งโคตรอันตราย ... แต่ทำยังไงได้ครับ
ย้อนศร 1 กิโลถึงที่หมาย อาจจะยอมหลีกให้รถเลนปรกติวิ่งไปก่อน ก็ยังดีกว่าท่อไปตั้ง 8 กิโล

โดยที่ไม่รู้ว่า ระหว่างกิโลเมตรที่ 1-8 นั่น กูจะเจอกับรถห่าอะไรบ้าง

ท่านครับ...เลนจักรยานก็สำคัญจริงอยู่
แต่รู้หรือไม่ครับว่า วินัยที่มันขาดหายไปของรถหลายๆ คันนั่นล่ะ
ไม่ได้ทำให้เลนจักรยานที่ท่านกำลังจะสร้าง มีคุณค่า อย่างที่ท่านคิดเลยครับ

ด้วยความเคารพเสมอ

พ.ย. 2557


19.11.57

ธรรมชาติของเด็ก




"ธรรมะสอนเราให้รู้ว่าในฐานะที่เราเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เราจะอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างไรให้เกิดความสมดุล ...แม้จะไม่ได้คาดหวังถึงสิ่งที่ลูกจะได้รับจากการเข้าวัด แต่เราเชื่อว่า สิ่งแวดล้อมที่ดีย่อมเป็นประโยชน์"


บ้านเราอยู่แปดริ้ว ตอนเป็นเด็ก พ่อและแม่ 
พาพวกเราทั้ง 3 คนพี่น้อง ไปวัดต้นตาล วัดใกล้บ้าน
ทุกวันสำคัญทางศาสนา 

ตระกูลเรานั่งแถวหน้าสุดในศาลาการเปรียญ
เสื่อแถวที่ 1 และ 2 ใต้โต๊ะเทศธรรมาสน์ คือพื้นที่เล็กๆ ของครอบครัว 
เป็นที่พบปะ ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา และพี่ น้องทุกคน 
ในระหว่างที่พระกำลังสวดมนต์ ใต้ศาลาวัดเป็นที่วิ่งเล่นของเรา 

ริมคลองท่าไข่เป็นร้านก๋วยเตี๋ยว 
และที่จอดเรือนับสิบลำของชาวบ้านละแวกใกล้ๆ
เป็นอย่างนี้ประจำทุกครั้งไป จนกลายเป็นความเคยชินในการใช้ชีวิตที่วัดตอนเช้า
แค่เพียงราวๆ 3 ชั่วโมงเท่านั้น

แต่มันอุ่นหัวใจโดยที่เราไม่รู้ตัว
ภาพทั้งหมดไม่เคยจางหายไปจากความทรงจำ
ถึงแม้บุคคลอันเป็นที่รักจะลาจากกันไปตามเวลา

ผ่านมา 37 ปี ถึงเวลาของเราที่จะทำตามหน้าที่ของพ่อและแม่ที่เคยทำให้ 
ในความหมายของลูกตัวเอง อยากให้ยายมาเห็นจัง 
ว่าเราก็ทำหน้าที่แบบที่พ่อเคยทำได้เช่นกัน 

..57

ธรรมะ คือ ธรรมชาติ เด็กก็เช่นกัน เรามีสิทธิในการเลี้ยงเขา ลองสอนให้ลูกอยู่กับธรรมชาติดูซักหน่อย แล้วค่อยให้เขาอยู่กับโลกอันทันสมัยเมื่อถึงเวลาอันสมควร...ก็จะดีครับ

18.11.57

สถิติที่แสนห่วย กับรูปสวยของฉัน





กลับมาปั่นทำงานอีกเช้า หลังจากอาทิตย์ก่อนขี้แตกก่อนปั่น ตัดสินใจ ... กลับขึ้นที่นอน ม้วนตัวบิดท้องด้วยความทรมานสัสๆ (คาดว่าอาหารที่กินไป อะไรซักอย่างนี่ล่ะเป็นพิษ) อาการไม่ได้ถึงกับต้องฝืนขับรถออกไปซื้อยาฆ่าเชื้อที่ตลาด

ยังดีที่มีร้านขายยา 24 ชั่วโมงเปิดอยู่ละแวกนั้น ไม่งั้นขี้แตกคาที่นอนอย่างรันทดแน่ๆ

------------------

เช้านี้ อากาศดีผิดปรกติ ลมหนาวมาแล้ว ...
ปาเข้าไปครึ่งเดือนของปลายปี มันคงเพิ่งนึกได้ว่า หน้าหนาว
ก็เลยยกขบวนกันเข้ากรุง (จะได้ซักกี่วัน)

ปั่นกะย่องกะแย่งๆๆๆ มาตามทางเหมือนเดิม นึกในใจว่าจะหนีลม ออกไปทางร่มเกล้าดีมั้ยวะ ให้ตึกสองข้างมันบังตัวเราจากลมหนาวซักหน่อย คิดได้แบบนั้นก็จอด ... ถ่ายรูปแม่งก่อน 555

ไฟแดง 70 วินาทีผ่านไป มุ่งหน้าทางเดิม (ละกันวะ)
ความที่สุวินทวงศ์มันโล่งมาก โดยเฉพาะตอนเช้า ลมหนาวก็เลยวิ่งเข้าหาเราเต็มๆ
และด้วยความที่ ปั่นช้าเป็นทุนเดิม เพิ่มลมเข้ามาอีก

ทีนี้กูเลยไม่ต้องไปไหน กะด๊อกกะแด๊ก ย้อนศร (ลม) แม่งมาตลอดทาง
แต่ก็คุ้มนะ เวลาจอดถ่ายรูปข้างๆ ถนน แม่งชิลล์ชิบหายครับ ลมเย้นนนเย็น
กว่าจะถึงที่ทำงาน ปาเข้าไป 7.50 โน่น

ยิ่งปั่น สถิติยิ่งเหี้ยลงๆๆๆ 55555
แต่ก็ช่างแม่งเถอะ ยังคงถ่ายรูปได้เหมือนเคย

พ.ย. 57
ลมหนาวมา พาพี่เหนื่อย ดีนะพี่ไปเรื่อยๆ ไม่งั้นพี่เมื่อยตาย

11.11.57

Level ดีดีในชีวิต







10/11/2014

53 กิโลเมตรหลังจากเลิกงาน กลับทางคลองหลวงแพ่ง เคหะร่มเกล้า สุขาภิบาล 3 และ 2 ออกชอคโกแลตวิลล์ มุ่งหน้า ก.ม.8 บางเขน

เหนื่อยใช้ได้ แต่สนุก

พ.ย. 57

6.11.57

a day Bike Fest 2014 รามอินทรา-บางบ่อ











วันนี้ปั่นมาทำงานครับ เหตุจากหลายวันก่อน
กว่าจะขับรถถึงบ้าน 2 ชั่วโมงกว่า เบื่อมาก
แล้วก็ขี้เกียจที่จะแบกจักรยานไปลงบ้านเพื่อนแถวร่มเกล้าละ 
ก็เลย ปั่นมันตั้งกะที่บ้านนั่นล่ะครับ มาถึงเอแบคบางนาเลยละกัน

ทีแรกก็ว่า จะไหวมั้ยวะตั้ง 50 กว่าโล 
แต่ เอาก็เอาครับ ไม่หยุดปั่นยังไงก็ถึง
ตื่นตี 4.30 ทำธุระส่วนตัว แพ๊คของใส่กระเป๋าเสร็จ ตี 5.00
ก็ปั่นออกจากรามอินทรา 65 ครับ ไฟสวยแฮะ แวะแป๊บละกัน
แค่ออกปากซอยก็แวะแล้ว จะถึงกี่โมงวะวันนี้ (นึกฮาในใจ)
แล้วก็ปั่นต่อครับ

เวลา กับ รอบขา และระยะทางของผมราวๆ นี้ 
คือ 10 กิโลเมตร จะใช้เวลาปั่นประมาณ 30 นาที
รวมไปถึงการจอดถ่ายรูปด้วยนะ ซึ่งแต่ละครั้งไม่เกิน 30 วิหรอก
ปั่นผ่านมีนบุรี ก็มาเจอสุวินทวงศ์
ซึ่งตอนเช้าแบบนี้ รถน้อยมาก ปั่นสบายแบบคาดไม่ถึง

เอ้า งั้นแวะอีกรอบ

จากรามอินทรา มาจนถึงจุดแรกที่ดูในกูเกิ้ล (แถวขนส่งพื้นที่ 4)
ราวๆ 29.9 กิโลเมตรครับ ผมกะว่าซัก 2 ชั่วโมงน่าจะถึงมั้ง
แต่เกินคาดครับ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงแล้ว เช้าๆ อากาศดี เลยปั่นสบาย
ถ้าเจอแดดนี่ หม้อน้ำแตกแน่นอน สู้ไม่ไหว

เอ้า งั้นก็แวะ

ถึงสี่แยกหนองจอก ถือกล้องถ่ายฟ้าแบบไม่มีแสง 
รีบๆ ด้วย กลัวรถเอาไปกิน เลยเบลอไปซะก่อน
ปั่นเข้ามาทางสี่แยกไฟแดง ขนส่งพื้นที่ 4 
จากถนนสุวินทวงศ์ - เข้ามาทางนี้ ระยะทางราว 11 กิโลเมตร
เป็นเส้นทางเดียวกับที่ผมขับรถมาทำงาน ใช้เวลาปั่นราวๆ 30 นาทีเหมือนกัน
แวะแหลกเหมือนกัน

จากตลาดคลองหลวงแพ่ง มาถึงเอแบคบางนา ราวๆ 14 กิโลเมตร
ซอยที่ทะลุถึงเอแบค ราวๆ 10 โลได้ (ถนนข้างนอกจนถึงตลาด 4 กิโลเมตร)
ผมใช้เวลาปั่นก็ 30 นาที เรื่อยๆ เอื่อยๆ เพราะเข้าช่วงพีคแล้ว  

ถึงเอแบค 07.40 น. ทันเวลาเข้างาน 8.00 น. 
ตื่นเช้ากว่าเดิมหน่อย แต่มาทำงานทัน โอเคเลยนะ
ที่เหลือก็คือ จะขี้เกียจปั่นอาทิตย์ละ 3 วันมั้ย

แค่นั้นแหละ

3.11.57

หารอบขาของตัวเองให้เจอ








เสาร์ อาทิตย์ ที่ผ่านมา ปั่นไปแถวๆ ลำลูกกา หทัยราษฏร์ คลอง 9 ใกล้ๆ เหมือนเดิมนั่นล่ะครับ
ที่เห็นได้ชัดก็คือ ตอนนี้ไม่ต้องฟรีขาทิ้งบ่อยเหมือนแรกๆ แต่สามารถควงขายาวและนานได้จนเกือบจบการปั่น (ที่ไม่จบเพราะส่วนใหญ่มัวแต่จอดถ่ายรูป) อิอิ

วิถีการปั่นของผมมันมักไม่ค่อยจริงจัง คือปั่นไปเรื่อย 
คิดจะจอดก็จอดเลย (ถ้ามาคนเดียวนะ) แต่ต่อไปอาจจะลองขยับไปกลับ แบบ 90-100 โลดูมั่ง
ไม่ได้หวัง Audax อะไรนั่นหรอก เพราะดูแล้วมันไม่ใช่ทางสำหรับเราแน่ๆ

จะว่าไปแล้ว เราเจอธรรมชาติของรอบขา ในการปั่นจักรยานของตัวเองแล้วนะ
คือปั่นไปซักที่นึงที่อยากไป ไม่รู้ระยะแน่ชัดด้วย เพราะไม่มีไมล์ 
ดูคร่าวๆ จาก Google Map เอา (... ฮ่า)
แล้วก็ออกจากบ้านให้เช้าที่สุดครับเท่าที่จะตื่นได้ถ้าไม่ขี้เกียจ (นี่ล่ะที่แม่งยากกว่าปั่นอีก)

เคยลองเข้ากลุ่มปั่นกับคนเยอะๆ แต่ก็ไปไม่ตลอดรอดฝั่งซักที 
คือแบบ เวลาเราปั่นผ่านที่ๆ นึงแล้วเจอ Location สวยๆ
เรามักจะ เห้ยย กูอยากจอดว่ะ ... แต่เกาะกลุ่มปั่นมันจอดไม่ได้ เพราะเขาไม่จอดด้วย  555555
ก็เลยแห้วภาพตรงนั้นไป  แล้วก็มานั่งเสียดาย

มันติดมาจากสมัยที่ขี่ HD กับขับเต่า คือมักจะไปคนเดียว
แล้วก็จอดตามรายทางเพื่อเก็บภาพไปด้วย ซึ่งกว่าจะถึงบ้านแม่งกินเวลาเป็นวัน

(ความคิดผมนะ) มันเป็นบันทึกส่วนตัวที่เมื่อไหร่เรากลับมาเปิดดู 
มักจะมีความสุขและยังคงได้กลิ่นท้องนา ป่า หรือเขา เหล่านั้นอยู่ตลอดเวลา 
กลิ่นมันหอมน่ะ ยกเว้นทะเลนะ ซึ่งไม่ชอบไป แม่งร้อน

ลองปั่นอยู่สองสามครั้ง ก็ตัดสินใจ ไม่เอาดีกว่าครับ ผมไม่อยากเป็นภาระใครด้วยเรื่องสาระเล็กน้อยของผม เลยออกปั่นคนเดียวถ้าเป็นไปได้ หรือไม่ก็มีแค่ 2-3 คันซึ่งเป็นเพื่อนที่เรายุให้ซื้อจักรยาน 
อันนี้เราแกมบังคับ เพราะเพื่อนมันก็ลงความเห็นเหมือนกับเราว่า ... เออ สวยจริง 

หวังจะไป Audax ซักครั้งไหม ?
ก็น่าลองนะครับ เพราะจริงๆ เขาก็ไม่ได้บังคับอะไรมากมาย
เพียงแค่ ไปให้ถึง ในเวลาที่เขาแจงมาให้ (ซึ่งแน่นอนว่ากูทำไม่ได้ตามเวลาแน่ๆ)
เผลอๆ แม่งมีค้างคืน

แต่รูปวิวข้างทางนี่น่าจะได้เพียบแน่ครับ 
ซึ่งก็น่าสนใจนะ น่าจะมีแข่งถ่ายรูปเก็บภาพตามรายทางมั่ง
กูชนะแน่ มั่นใจ

พ.ย. 57

ปล.เราจะค่อยๆ กระดื้บๆๆ พิชิต 100 กิโลเมตรแรก แบบตะคริวไม่แดกลงให้จงได้ หึๆๆๆๆ
ปลล. เอ้อ ใส่ปีผิดเป็น 2013 เว้ย สาดด 5555