29.7.53

เก็บไว้ในความทรงจำ



2 ปีกว่าที่ผ่านมา
ได้สัมผัสกับสิ่งที่ได้ชื่อว่า
เป็นตำนานของรถมอเตอร์ไซค์
ตามลำดับ

วันนี้ไม่ว่างขี่
วันหน้าพี่ว่างเมื่อไหร่
จะไปหา

กรกฎาคม 2553
ไม่มีวันไหน ไร้ซึ่งHD

หลอดไฟน้อยในเมืองใหญ่ ทำให้คิดถึงใครบางคน



คืนวันเสาร์ ผมนั่งเล่นอยู่ในร้านเหล้าปั่น หันมองไปที่หัวเข่าตัวเอง
เห็นแมลงตัวน้อยเกาะนิ่งอยู่ พร้อมกับโชว์พลังแสงสีเหลืองอ่อน 0.005 วัตต์
อยู่ข้างหน้า

นั่งดูไม่นาน ก็พามันไปส่งที่ต้นจันทร์ผาหน้าร้าน
แมลงตัวน้อยก็ไต่ขึ้นไปเกาะ...แล้วก็บินต่อไป...

ที่นี่เมืองใหญ่ แมลงตัวน้อยมาจากไหนไม่มีใครรู้
..แต่ผมดีใจที่ได้เห็น..
นึกถึงสมัยเด็กตอนที่ยายส่งหลอดยานัตถุมาให้

แล้วเอาไว้ใส่ทิ้งถ่วง..
ภาพมันผุดขึ้นมาอย่างเลือนๆ แต่ไม่นานแล้วก็จางหายไป
ขอบคุณที่ผ่านมาแล้วแวะทักทายกัน
มันทำให้ฉันได้คิดถึงใครบางคน..

กรกฎาคม 2553

ปล. ทิ้งถ่วง หรือ หิ่งห้อย http://th.wikipedia.org/wiki/หิ่งห้อย

22.7.53

ค่อนข้างเย็น



เช้าวันจันทร์ขี่แมงกะไซค์รีบหนีฝนออกมาจากที่หอประมาณ 7 โมงเช้า เห็นเมฆดำๆ ลอยอยู่ลิบๆ แต่เดี๋ยวซักพักมันก็คงมาถึงเรา จอดรถเสร็จก็ขึ้นไปนั่งบนรถบัสเพื่อรอเวลาเดินทาง..อากาศวันจันทร์และ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝน ที่โปรยมาตลอดแทบทั้งอาทิตย์ เนื่องจากสาเหตของอากาศที่ปรวนแปร ล่าสุดมีการแจ้งข่าวผ่านทาง http://www.tripandtrek.com/tntboard/index.php?topic=528.0 ให้ระวังเรื่องพายุที่จะเข้าไทยภายในเดือนหรือสองเดือนมานี้ด้วยครับ

อากาศชื้นมาสองอาทิตย์กว่า จมูกผมก็ฟื่ดๆ ตามไปด้วย ขึ้นมานั่งในรถบัส แอร์ก็ไม่ได้เย็นซักเท่าไหร่ แต่เนื่องจากด้านนอกนั้นมันชื้นเหลือเกิน กระจกรถด้านข้างมันก็เลยเป็นตู้ไอติมแบบนี้ ยังดีที่ใส่เสื้อขี่แมงกะไซมาด้วย ช่วยได้เยอะ นี่กูมาทำงานเพื่ออะไรเนี่ย อากาศดีแบบนี้ น่าเปิดหนังดูอยู่บ้านซะนี่ นอนบนเตียงนุ่มๆ หมอนข้างใหญ่ๆ คงเพลินดี

..ซักพักก็หลับ
..ตื่นมาอีกทีก็มหาลัย
..ใช้ชีวิตเหมือนปรกติ


กค. 53
อยากขี่รถชิบหาย

20.7.53

ไม่มี ดีกว่า ไม่ดู




เมื่อวานไปรับตัว Nissan March รุ่น 1.2 E(A/T) มาจากศูนย์สยามนิสสัน สะพานใหม่ (ไม่ถึงหรอก จริงๆ อยู่ตรงโรงพยาบาลเซ็นทรัล เยอเนอรัล) มาเมื่อตอน 6 โมงเย็น ขับกลับมาบ้านแล้วก็ควักกล้องขึ้นมาเก็บภาพเหมือนเดิมที่เคยทำกับของอื่นๆ ถ่ายภายนอกและภายในโดยรวมทั้งหมด จนมาถึงเรือนไมล์ของมาร์ช

เล็งแล้วก็กดชัตเตอร์ แอบเห็นบนเรือนไมล์ของมาร์ชนั้นไม่มีเกจ์วัดระดับความร้อนของหม้อน้ำมาให้นะครับ แต่ใช้สัญลักษณ์ (ซึ่งไม่ได้อยากเห็นซักเท่าไหร่) แทนเข็มวัดเมื่อเกิดความร้อนเกินที่เซนเซอร์ของรถกำหนดไว้ ถามว่าดีไหม?...

สำหรับคนที่ใช้รถอย่างปราณีตก็น่าจะบอกว่าไม่ดีอย่างนู้นอย่างนี้ล่ะครับ (ก็ว่ากันไป) แต่หากต้องการที่จะเห็นมาตรวัด ก็สามารถหาอุปกรณ์ตกแต่งมาติดเพิ่มได้ครับ ตามกำลังทรัพย์และความต้องการ

แต่สำหรับผม
ดีชิบหายเลยโว้ยยยยยยย ไม่มีเข็มวัดแล้ว
วู้ววววววววววววๆๆๆๆๆ
รักมาร์ชที่สู้ดดดดดดดดดดดด

กค. 53

ปล. ผมเป็นโรคแพ้เข็มความร้อนบนหน้าปัดรถยนต์น่ะ ย้อนกลับไปอ่านบล็อคหลังๆ แล้วจะเข้าใจ
ไชโย...

14.7.53

บันทึกการเดินทาง














ถึงมหาวิทยาลัยแล้ว..
เริ่มวันทำงาน
..แปดโมง 37 นาที
สาย..
ิชิบหายกู

ก.ค. 53

ปล. วางนาฬิกาปลุกไว้ห่างตัว แม่งก็ไม่ได้ยินเสียงปลุกอีก วางใกล้ก็เอื้อมมือกดปิด ฮ่วย - -''

13.7.53

ลมพิษ



โรคลมพิษเป็นโรคที่เกิดจากภูมิแพ้ทำให้เกิดผื่นขึ้นตามผิวหนัง หากอาการเป็นมากจนถึงขั้นช็อกหมดสติ แบ่งเป็นสองชนิด
* ลมพิษชนิดปัจจุบัน Acute urticaria เกิดอาการลมพิษหลังจากได้รับสารทีแพ้ ผื่นมักจะหายใน 24 ชั่วโมง แต่บางคนผื่นอาจจะอยู่ได้ 2-3 วัน สาเหตุมักจะเกิดจากอาหาร ยา และการติดเชื้อไวรัส
* ลมพิษเรื้อรัง Chronic urticaria เป็นลมพิษที่เป็นเรื้อรังเกิน 6สัปดาห์ สาเหตุอาจจะเกิดจากได้รับสารที่แพ้อย่างต่อเนื่อง เช่น ได้รับยาปฏิชีวนะที่อยู่ในนม สารถนอมอาหาร สีสารปรุงรส

การรักษาด้วยยา
* ในรายที่เป็นรุนแรงให้ใช้ยา epinephrine
* ให้ยา H1-antihistamines
* หากให้ยาในกลุ่มแรกไม่ได้ผล ให้ยากลุ่ม H2-antihistamine,Tricyclic antidepressant
* หากไม่ได้ผลก็ให้ยา steroid
* ให้ยาแก้แพ้ เช่น chlorpheniramine 4 mgวันละ4 ครั้ง,
diphenhydramine 50 mgวันละ 4 ครั้ง, hydroxyzine 25 mgวันละ 2 ครั้ง
* ในรายที่รุนแรงให้ prednisolone 30-40 mg ต่อวัน
* ผู้ป่วยที่เป็นรุนแรง Angioedema ควรพบแพทย์ที่ใกล้ที่สุดต้องรีบให้ epinephrine 1:1000,0.3cc s.c.

ที่มา http://www.siamhealth.net/public_html/Health/Photo_teaching/urticaria.htm

มาแบบสาระเน้นๆ
ไม่มีเวลาเล่น ขอตัวไปเกาก่อน
คันชิบหาย~

ปล. ลืมอวดไปว่า ไอ้เรื่องเป็นแล้วช็อคหมดสติน่ะ พี่ก็เป็นมาแล้วน้อง จิ๊บๆ ว่ะ (ฮืออ~)

กค. 53 คันยันง่ามดาก

6.7.53

ง่ายและสุข (2)




เล่นจนหนำใจ
ใช้พลัง
ซะเต็มแรง
...

แย่งกันร้องไห้
ระงม
...

หิว
ก็เรียงลำดับ
ยื่นปากงับนมแม่

...
หมับ!

แล้วก็หลับ
..นอนนับดาว

หลั่น ลั๊น ลัน หลั่น ลัน ลัน ลัน ลั๊น ลัน ลาาา..
6 กรกฎาคม 2553

2.7.53

คงไม่ชงร๊อกกก



หลังจากอัพบล็อคไปเมื่อวานเกี่ยวกับเรื่องปีชง ที่เกิดเรื่องเยอะแยะนู่นนี่ขึ้นมากมาย รถโดนชน กระเป๋าตังค์หาย มอเตอร์ไซค์แบตหมดมั่ง ฯลฯ ตกเย็นก็ขี่แมงกะไซค์คันเล็กไปที่ร้านด้วยสภาพไข้แดก มึนงงกับสภาพอากาศเล็กน้อย ขี่ไปจนเกือบถึงบ้านหญิง แมงกะไซค์เจ้ากรรมก็เกิดอาการคันคอ ไอแค่กๆๆๆ แค่กๆๆๆ แล้วแม่งก็ดับไปซะกลางถนนดื้อๆ เดือดร้อนต้องแอบข้างฟุตบาทเพื่อที่จะเช็คอาการของมัน ว่ามึงเป็นอารายว๊า..

วิ่งจากพัฒนาการมาจนเลยแยกเกษตรตัดใหม่ได้ซักพัก มันก็ส่อแววจะลาโลกแล้ว ฝืนขี่มาได้ไม่กี่อึดใจมันก็เป็นอย่างที่บอกไป คือหยุดหายใจและไม่วิ่งมันซะดื้อๆ จอดแอบข้างถนนเช็คดูหัวเทียนว่าผิดปกติมั้ย ในใจก็คิดว่า เอาอีกแล้วกู ชงต่อเนื่องหรือไงเนี่ย เดชะบุญครั้งสุดท้ายที่กระแทกคันสตาร์ท เครื่องก็ฝืนติดวิ่งต่อได้ แต่ด้วยอาการไม่ครบ 32 วิ่งเหมือนลากช้างมา 3 เชือก อืดสุดๆ

เข้าซอยบ้านหญิงแล้วก็เปลี่ยนหัวเทียนที่ร้านกลางทาง เอ้า โดนไป 80 บาท สตาร์ทพรึ่บเดียววิ่งต่อได้ แล้วก็ไปเปิดร้านแบบงงๆ พอเลิกร้าน 5 ทุ่มก็นั่งรถกลับ แหงนหน้ามองฟ้าตอนเกือบเที่ยงคืน แล่บแปร๊บๆๆ เอาล่ะวากู งานเข้าแน่ถ้าเอาอีแก่ขี่กลับห้อง จำต้องนั่งแท๊กซี่จนถึงหอ...ฝนไม่ตกซักแอะ...โดนไป 150 บาทสบายใจ

เช้าาาาาา ตื่นมา 7 โมงเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน นึกขึ้นได้ว่าเอาแมงกะไซค์จอดไว้บ้านหญิงนี่หว่า เช้านี้คงต้องนั่งแท๊กซี่ไป ลงจากลิฟต์ไม่ถึงชั้น 3 ฝนก็กระหน่ำลงมาเหมือนติดค้างจากเมื่อคืน..ไม่เป็นไร กูไปแท๊กซี่...20 นาทีผ่านไปกับห่าฝนและไร้เงาแท๊กซี่ 7 โมงฝ่าแล้ว ทำยังไงดีวะกู ฝนก็ตก เปียกก็เปียก น้ำก็ท่วม เห็นทีคงจะจมน้ำตายเป็นแน่ เดชะผลบุญที่เคยทำมาน้อยนิด ส่งแท๊กซี่จากสวรรค์ลงมา 1 คัน ได้ไปทำงานแล้วกู!!!

นั่งหนาวอยู่บนรถบัสมหาลัย สั่นหงั่กๆๆ ฝนก็ตก เสือกเปิดแอร์ยังกะพายุเฮอริเคน แต่ช่างมัน
อย่างน้อยก็ได้มาทำงานล่ะวะ ถึงจะเปียกเป็นหมาตกน้ำก็ตาม
อย่างน้อยก็ออกจากซอยได้ล่ะวะ ต้องขอบคุณเจ๊ผู้ใจดีที่อาสาให้เราติดรถออกมาปากซอย
คงไม่ชงร๊อกก

กรกฎาคม 2553

1.7.53

ชงก็ชงวะ



สวัสดีกลางปี 2553 อันชุ่มฉ่ำฮะ ฝนตกกันมาหลายวันแล้ว​ โดยไม่มีทีท่าว่าจะซาลงแต่อย่างใด กลับมาจากราชบุรีเมื่อวันเสาร์ และอาทิตย์ที่ผ่านมาด้วยความระบม ทั้งตูดแล้วก็สมอง ระบมตูดก็เพราะไอ้ Nightster ที่ขี่ไป มันกระแทกซะเหลือเกิน เล่นเอาบั้นเอวแทบจะเคลื่อนที่ออกจากจุดศูนย์กลาง ส่วนระบมสมองก็เพราะไอแดดในวันที่กลับ กทม. ช่างร้อนชิบหาย ร้อนจนพาเอาไข้มาเป็นแขกไม่ได้รับเชิญเสียสองวัน (นี่ก็สามเข้าไปแล้ว)

มีคนทักว่าปีนี้เป็นปีชงของเรา (ผมปีมะเส็ง) จะมีแต่เรื่องราวที่ไม่ดีเข้ามาในชีวิต แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เนื่องจากไม่เคยเอาชีวิตไปแขวนไว้ใกล้ๆ ดวง แต่พอมานั่งไล่ลำดับนับเรื่องราวที่คนเข้ามาทัก ก็เออว่ะ ครึ่งปีนี้ที่ผ่านมามีแต่เรื่องเฮงๆ แทบจะทั้งนั้น

ไล่มาตั้งกะต้นปีที่มีเรื่องปัญหาส่วนตัว ทำให้ต้องจัดระเบียบชีวิตกันใหม่ ต้องขายรถเก๋งคันเก่าทิ้งไป พร้อมกับบวกเงินอีก 4 หมื่นให้กับเต๊นท์รถ ต่อมาก็เสียกระเป๋าตังค์ไปอย่างไร้ร่องรอยพร้อมกับเงินในกระเป๋าที่อันตรธานหายไปด้วย ตามมาติดๆ กับเรื่องรถเก๋งคันใหม่ที่โดนรถบัสชน...ตอนนี้มันก็นอนนิ่งอยู่ในอู่เคาะ ตัด ผุ .. แถมพี่ที่สนิทกันยังบอกเป็นนัยๆ อีกว่า มึงโดนแบตรถยนต์อีกก้อนแน่นอน เพราะว่ามันกำลังลาโลกไปแล้ว พอกลับมาจากไปเที่ยวก็มาเจอเรื่องแบตเตอรี่ของรถมอเตอร์ไซค์เข้าให้อีก นี่ก็ท่าทางจะไม่รอด แถมแพงกว่าแบตรถยนต์อี๊กกก..อ้อ..ยังไม่ลืมเรื่องไข้แดกที่กำลังเป็นอยู่อีกนะ

มีอะไรอีกมั้ยวะ??
คงไม่มีแล้วมั้ง...
แต่ถ้าจะมีและถ้าจะมาทั้งทีก็พร้อมใจกันมาทีเดียวนะฮะ
ตอนนี้พร้อมรับทุกสถานการณ์ ชงก็ชงวะ

ปล. รูปหมาเศร้าจากร้านก๋วยเตี๋ยวไข่ ราชบุรี

กรกฎาคม 2553