30.7.55

เดือนแห่งการเริ่มต้น








เกือบหมดเดือน กรกฎาคม แล้ว ปีนี้ฝนเล่นตกเกือบทุกวัน จนเปื่อยกันเป็นแถว
 เสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมากลับไปบ้านที่แปดริ้ว แวะเอาขนมไปฝากลูกสมุน พ่อกับแม่ พี่ยุ้ย อยู่บ้านกันครบ

มีโอกาสได้เกริ่น เรื่องสำคัญหนึ่งเรื่องที่ตั้งใจไว้ ถึงจะยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่โดยตรงก็เถอะ คำตอบที่ได้รับจากพี่ยุ้ยที่ว่า ... ได้ และคงถึงเวลาแล้ว ... นับเป็นเรื่องดี ที่ช่วยอัพกำลังใจของเราได้อีก 5 เลเวล

เมื่อถึงช่วงเวลา และจังหวะที่เหมาะสมจริงๆ คงเริ่มต้นได้อย่างมั่นคง คงจะดีกว่าถ้าเราไม่รีบร้อน แล้วลงเอยด้วยความหละหลวมอีกครั้ง

ก.ค. 55

ขาย Harley เตรียมเป็น  Adventure เว้ยแสดดดด (อันนี้มั่นคงสุดๆ 55)

24.7.55

เรามีเหลือเฟือ 2


ทุกวันหลังจากส่งหญิงกลับบ้าน ผ่านทางเดิม ผมคอยตามถ่ายลุงคนนี้มาหลายอาทิตย์แล้ว  ชีวิตประจำวันยามค่ำคืนของแก มักจะวนเวียนอยู่แถวตลาดหัวตะเข้และละแวกใกล้เคียง บางครั้งก็เดินอยู่หน้าธนาคารกสิกรไทยฝั่งตรงข้ามบ้าง บางทีก็เห็นแก แก้ผ้าอยู่เกาะกลางถนน (ตอนนั้นผมแค่เหลือบมองเฉยๆ นะ -'-) บางวัน ผมก็ไม่เจอแกนอนตรงที่เดิม

หลายคำถามผุดขึ้นในหัว หมือนกับคนอื่นๆ ที่มองดูคนสติไม่สมประกอบ ทำกิจวัตรส่วนตัว หรือปล่อยใจ (และกาย) ให้เปลือยเปล่า ล่องลอยอย่างไร้ความรู้สึก หลายคำตอบจากคนที่เคยสงสัย รวมทั้งผมเอง คงเป็นคำตอบเดียวกัน นั่นก็คือ คนบ้าไม่ได้คิดอะไรหรอก...

อย่างไรก็ตาม คงไม่มีคำยืนยันจากปากเจ้าตัวเป็นแน่
ว่าก่อนที่จะทำ และเมื่อได้ทำไปแล้ว
ได้ฉุกคิด หรือว่า
ว่างเปล่า...

แต่สิ่งนึงที่ผมได้ จากการเฝ้ารอถ่ายรูปตาลุงคนนี้มาหลายอาทิตย์ คือ อย่างน้อยผมก็ยังมีครอบครัวให้ได้กลับไปหา มีที่ซุกหัวนอนอุ่นๆ มีรถให้ขี่ และมีข้าวดีๆ ให้กิน ถึงมันจะไม่มากมาย แต่ก็มากกว่าอีกหลายๆ คน — เรามีเหลือเฟือครับ

กค. 55

ลาดกระบัง

20.7.55

ครบรอบ 3 ปี




หลังจากที่ตัดสินใจทำตามความคิดของตัวเองไปเมื่อนานมาแล้ว สองวันก่อนนี้ ครบรอบ 3 ปี แล้วฮะ ในการคบกับหญิง เรื่องราวที่ผ่านมานั้น คิดว่าหลายคนที่ใกล้ตัว คงรับรู้และเข้าใจ ส่วนคนอื่นๆ ที่อยู่ไกลออกไป คงต้องปล่อยให้เวลาเป็นตัวเล่าเรื่องราวทั้งหมด ให้กระจ่างชัดด้วยตัวของมันเอง ไม่ว่าช้าหรือเร็ว เราก็คงไม่หวังถึงผลที่จะตามมาอีก เพราะบางครั้ง ก็มีเพียงเราที่เข้าใจกัน

สุขบ้าง ทุกข์บ้าง ดีบ้าง ทะเลาะกันบ้าง คละเคล้ากันไปครับ
แต่สิ่งนึงที่ไม่เคยขาดตกไปก็คือ เราสื่อสารกันตลอดทุกวัน (บางทีก็วันละหลายเวลาเกิ๊นนน -'-)
มันเลยทำให้เรามีอะไรที่ถึงกันตลอด รวมทั้งคิดไปในทางเดียวกันในหลายๆ สิ่ง

เมื่อวาน โดนไล่ให้ไปอาบน้ำ (จังเลยวะ) ไอ้เราก็สงสัยว่าทำไม แต่ก็ไม่ได้เอะใจ ออกจากห้องน้ำก็เจอขนมเค้กก้อนโต วางอยู่บนที่นอน พร้อมกับเจ้าของเค้ก นั่งทำหน้ากรุ้มกริ่มอยู่ข้างๆ...หลังจากนั้นก็เป็นพิธีแสดงความขอบคุณ​ (เรียกพิธีเลยเหรอวะ 555) แต๊งกริ้ว จุ๊บๆ กันนิดหน่อย


ขอบคุณ 3 ปีที่เราได้เลือก ตามความต้องการของเราจริงๆ
ขอบคุณ 3 ปีที่ มีทั้งคนรักและคนชัง เดินผ่านเข้ามา (ไอ้ที่ชัง ช่วยเดินผ่านเลยไปเลยนะ กูไม่ว่างคุย)
ขอบคุณ 3 ปีที่สื่อสารกันทุกวันฮะ ทำให้รู้ว่าเค้กอร่อยๆ มันมีอยู่ที่เซ็นทรัลเวิร์ลนะเว้ย

ก.ค. 55

ปล. เค้กอร่อยทุกส่วน ยกเว้นไอ่้เม็ดฝ่อๆ ที่แปะมารอบๆ นั่น มันคืออะไรวะ -'-

16.7.55

แมวแก่







เสาร์ที่ผ่านมา คิดไม่ออกว่าจะไปไหนกันดี ไปเดินห้างก็เบื่อ นอนอยู่บ้านก็น่าจะเซ็ง ก็เลยเลือกที่จะแวะไปเยี่ยมเยียมรุ่นน้าที่สนิทกันคนนึง แถวนครนายกฮะ

ว่าแล้วก็ขับมาร์ชไปโลด กด GPS หาจุดหมายปลายทาง ที่ วัดพราหมณี หรือ วัดหลวงพ่อปากแดง เหมือนเคย แต่รอบนี้พิเศษตรงที่ เลือกฟังก์ชั่นการเดินทางแบบ เส้นทางที่สั้นที่สุด กะว่าไปถึงเร็วด้วยทางลัด สบายแน่กู แต่อนิจจา GPS พาลุย เข้าป่า เข้าดง ลุยทุ่งไปเรื่อย จนมองหน้ากันสองคนว่า ที่นี่ ที่ไหนวะ? 5555+

ถึงยังไง ก็โผล่ไปถึงบ้านน้าแกจนได้ (วังเวงแทบตายเหมือนกัน) -"- ... แวะนั่งคุยกับน้านูนอยู่พักใหญ่ ก็ได้เวลากลับ หมดไปอีก 1 วันสำหรับเสาร์หรรษา ขากลับ ปรับโหมด GPS เข้าที่เดิม แม่งพาไปไหนอีกก็ไม่รู้ ทางก็มืดชิบหาย แถมยังเปลี่ยวอีก ฮ่วย!

ปล. ที่หลาย ตร.ม บนหมู่บ้านจัดสรรค์เล็กๆ ที่น้าแกซื้อไว้ พร้อมกับปลูกห้องนอนแมวไว้ 1 หลัง น่าอยู่จริงๆ เหมาะที่จะเอาไว้พักผ่อนยามเหนื่อยจากงาน หรือตอนเบื่อเมืองกรุง ไว้คราวหน้าจะเตรียมของไปนอนค้างอ้างแรมด้วยนะลุง อิอิ

ก.ค. 55

13.7.55

ศุกร์ 13





ศุกร์ 13 เลขที่ฝรั่งเขาไม่ชอบกัน เพราะดูว่ามันไม่เป็นมงคล เราคนไทยมองเห็นมันเป็นเลขธรรมดา (แต่บางคนฮิตตามฝรั่งแล้วก็มีนะ) อาทิตย์นี้ ฝนตกทุกวันครับ วันละรอบ แต่ละรอบหนักๆ ทั้งนั้น รวมถึงเช้าวันนี้ด้วยก็เช่นกัน

ฝ่ามรสุมรถติด หน้าตลาดน้ำหัวตะเข้มาได้พักใหญ่ เลี้ยวเข้าซอยปลาสลิดเพื่อที่จะมาทำงาน ฝนก็ยังโปรยปรายไม่ขาดสายครับ สงสัยจะควบยาวไปจนจบอาทิตย์เป็นแน่

ตามทางเจิ่งนองไปด้วยน้ำฝน และขี้โคลนที่กระเซ็นจากรถที่แล่นสวนกันไปมา
ทุกชีวิตหยุดนิ่งอยู่กับที่ ภายใต้ร่มเงาของหลังคา
เว้นเสียแต่ปลาหมอตัวน้อย ที่คอยแถกเหงือกอยู่บนถนน
หวังเพียงแค่ข้ามไปให้ถึงอีกฝั่งซึ่งอยู่ตรงข้าม


บ้างก็ข้ามไปถึงฝั่งที่ฝัน บ้างก็หยุดอยู่กลางทาง ที่ๆ ยางล้อรถแล่นผ่าน
ศุกร์ 13 เป็นเพียงแค่ความกลัว ที่กล่าวผ่านกันมา ชีวิตจริงนั้นต้องดิ้น
ไม่งั้นก็สิ้นใจ...อยู่กลางทาง

สวัสดีศุกร์ 13 ครับ
ก.ค. 55

10.7.55

สวัสดีชุมพร - 3







7-8 กค ไปชุมพรมาครับ (บอกใครวะ) คราวนี้ไปกันทั้งหมด 7 คัน รวมรถตู้บรรทุกคนไปอีก 1 คันรถ
ออกจากแปดริ้ว ตี5 ของวันเสาร์ ถึงชุมพรราวบ่ายโมงครึ่งเห็นจะได้ ระหว่างทางมีเหตุขัดข้องกับรถพี่ยา เล็กน้อย ท่อขาด วิ่งต่อไม่ได้ ต้องหาร้านเชื่อมท่อจนเรียบร้อย

เจอฝนขาลง เป็นระยะๆ แต่ไม่มากเท่าขากลับ ที่เล่นเอาซะพวกเรางอมกันเป็นแถว

รวมถึงอุบัติเหตุครั้งแรกของการขี่รถออกทริปของพวกเรา ที่พี่ยาล้ม แถวๆ หลักกิโลเมตรที่ 19 ก่อนจะเข้าหัวหิน แต่คนไม่เป็นอะไรมาก ก็ถือว่าดีครับ สิ่งที่ได้จากการกลับมาครั้งนี้ ก็คงหนีไม่พ้นในเรื่องของ

- การไปเป็นกลุ่ม ช่วยให้เวลาเกิดเหตุอะไรขึ้น สามารถดูแลกันได้ทันที
- การเดินทาง โดยใช้ความเร็วที่เหมาะสม หากเกิดเหตุ เรื่องหนักจะได้กลายเป็นเบาครับ
- การสวมอุปกรณ์ป้องกัน ที่ถูกต้องในทุกครั้งของการขี่รถ ช่วยรักษาชีวิตไว้ได้


เราไม่รู้ว่าตอนที่ล้ม ส่วนไหนของร่างกายจะลงไปสัมผัสพื้นถนน และจะเกิดความเสียหายต่อร่างกายของคนขี่ได้ขนาดไหน เพราะถ้าจังหวะนั้น พี่ยา ไม่ได้ใส่หมวกแบบเปิดหน้า (Half Face) หรือเต็มใบ (Fullface) แล้ว

พวกเราอาจจะกลับไม่ถึงบ้านกันก็เป็นได้

ก.ค. 55

3.7.55

My best friend


เช้านี้ รถติดตั้งแต่กลางซอย หัวแถวจ่ออยู่หน้าทางเข้า ข้าง ม.หัวเฉียว นู่นแหนะครับ ไม่เคยเดาสถานการณ์รถติดของประเทศไทยได้ตรงเป๊ะๆ ซักทีว่า วันนี้จะดวงดีวิ่งฉลุย หรือชะตาขาด ต้องมานั่งแหง่กหลังพวงมาลัยกันแน่

ฝั่งบางนา-ตราด ขาออกชลบุรี เป็นแบบนี้ทุกวันทำงานครับ ไม่ว่าคุณจะตื่นเช้า หรือ ตื่นสาย
สิ่งที่จะได้เจอนอกจากหมูย่าง ฝนตก ก็คือ รถติดนี่ล่ะ

อาคารพาณิชย์ประตูเลื่อนสีเหลืองเรียงกัน 4-5 คูหา ยังคงปิดอยู่
คงเช้าเกินไป ที่จะเปิดร้านออกมาขายของ

1 คน กำลังจะไปทำงาน ...
อีก 1 ตัว มายืนเป็นเพื่อน ...

เป็นเช้าวันทำงานที่ดี อีกหนึ่งวัน ผมมีเพื่อนร่วมทาง เธอคนนั้น มีเพื่อนนั่งรอ

ก.ค. 55

2.7.55

เรามีเหลือเฟือ


พ่อแม่ผมชอบบอกเสมอว่า เรามีเหลือเฟือ เยอะแยะไปหมดแล้ว...

เมื่อวานหลังจากกลับจากบ้านหญิง ติดไฟแดงอยู่หลังสนามบินสุวรรณภูมิ
มอเตอร์ไซค์คันข้างๆ ก็เทียบจอด...

4 ชีวิตบนรถคันนึง ไม่ต่างกับ 1 ชีวิตในรถอีกหนึ่งคันครับ
แค่ไม่เหมือนกันก็ตรงที่ ผมมีแอร์ และเย็นกว่าเขา เท่านั้นแหละ

พ่อแม่ผมชอบสอนผมให้ดูคนที่เขา น้อยกว่าเรา ว่ายังมีอีกเยอะมากมาย อาจจะช่วยให้เรามีพลัง พอที่จะดำเนินการชีวิตต่อไปได้เรื่อย แต่ถ้าหากมองคนที่เขา มากกว่าเรา  คงเหมือนว่าเราจะขาดอะไรไปอีกเยอะ ถ้าคิดเสียอย่างนั้น รังแต่จะคิดถึงแต่คำว่า ไม่พอ ครับ

ผมมีรถ แอร์เย็น เพลงเพราะ ฝนตกไม่เปียก แดดออกไม่ร้อน ถึงมันจะคันละไม่กี่ตังค์ก็เถอะ
ผมมีเงินเดือน มีงานทำ มีข้าว มีน้ำกิน ถึงจะไม่ได้รวยล้นฟ้า


แค่นี้ก็เหลือเฟือแล้วล่ะครับ

ก.ค. 55

สวัสดีเดือนกรกฎาคมครับ