25.11.53

เปลี่ยนผ่าน



วันเสาร์ที่ผ่านมามีกีฬามหาวิทยาลัย..ซึ่งผมลงเตะบอลครับ...เรียกว่าเตะบอลเลยก็คงไม่ถูกนัก เพราะแค่ลงไปวิ่งด๊อกๆๆๆ และก็จิ้มบอลส่งให้รุ่นน้องสองสามจึ้กเพียงแค่นั้น ปีนี้ 2553...ผมอยู่ที่เอแบคมา 12 เกือบ 13 ปีแล้วครับ ลงเตะบอลให้ที่นี่นับครั้งนี้ก็หนที่ 4 แล้วล่ะมั้ง

สามครั้งที่ผ่านมา (หลายปีมาแล้วนู่น) ในแต่ละการแข่งขัน ผมลงเตะทุกนัดครับ ไม่มีว่างเว้น ครบเวลาแบบ full Time หรือต่อเวลา 120 นาทีก็ต้องมีเราอยู่ในสนาม ไม่ว่าจะเริ่มสตาร์ทกี่โมงก็แล้วแต่ ก็อยู่ตั้งกะเริ่มเขี่ยบอล จนถึงเก็บเต๊นท์รอบสนามเลยทีเดียว แพ้มั่ง ชนะมั่ง ก็อยู่ในเหตุการณ์ตลอด

แต่มาปีนี้ ลงเตะไปแค่ 2 เกมส์ โดนบอลไปไม่ถึง 10 ที แล้วก็กลับ...

เพราะรู้ตัวเองเลยว่า นี่คงไม่ใช่เวลาที่เราจะลงไปวิ่งเย้วๆๆ เหมือนแต่ก่อนอย่างไม่มีหมดแรงเหนื่อย แต่กลับเป็นตรงข้ามกันที่ใจไปแต่ขามันเสือกไม่ก้าว ขาก้าวแต่ลมก็พาลจะแดกเอาครับ ทุกสิ่งในสมองเกี่ยวกับฟุตบอลยังอยู่ครบเหมือนเดิมเป๊ะ แต่ไอ้ที่เปลี่ยนไปก็คือ แรงที่จะยกขาแล้วส่งบอลต่อไปให้คนอื่น กับแรงที่จะวิ่งกลางแดดตอนบ่ายสองให้ครบ 30 นาที (บอลโต๊ะเล็กน่ะครับ)

พูดแล้วก็เศร้า นี่กูกำลังเดินเข้าสู่วัยกลางคนใช่ไหมวะ ถึงได้เป็นแบบนี้ ได้แต่ยืนตะโกนโหวกเหวกมองดูน้องๆ ที่มันกำลังบรรเลงเพลงแข้งอยู่ในสนามกันอย่างเมามัน หรือว่ามันถึงวันที่หลายคนเคยเปรียบไว้ว่า เป็นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านจากรุ่นหนึ่ง ไปสู่อีกหนึ่งรุ่น คลื่นลูกเก่าเน่าไป ลูกใหม่โถมข้ามา เป็นวัฏจักรที่ทุกคนเดินเหมือนกันไม่มีวันหลีกและเลี่ยงได้ ฉันใดก็ฉันนั้น..แล

เสือกปลงชีวิตเหมือนลุงแก่ๆ ซะงั้น
ตายล่ะกู - -'
ใจยังอยู่นะ แค่ขาไม่ก้าวเองแสดด
เค้าผิดด้วยเหรอ

พย. 53

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น