5.8.53

จังหวะชีวิต



เมื่อวานเย็นหลังเลิกงาน ขับรถฝ่าฝนตกและรถติดเข้าไปรับหญิงที่ทำงานแถวนวมินทร์ ถนนเส้นสุขาภิบาล 1 กลายเป็นสวนสยามย่อยๆ ทั้งมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ วิ่งกันบนน้ำเหมือนเรือเล่นในคลอง เราออกจากออฟฟิศก็มุ่งหน้าไปหาข้าวกิน ลงเอยที่ร้านหมูกระทะที่ซอย 87 ที่เขียนป้ายล่อตะเข้ไว้ว่า 159 เท่านั้น

ไม่รีรอ จอดรถแล้วก็นั่งโต๊ะ สั่งๆๆๆๆ กินๆๆๆๆ ฝนตกๆๆๆๆ หนาวๆๆๆๆ

ซักพักพอท้องได้รับอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ เราก็หยุดการทำลายล้างลง แล้วก้มมองหมาตัวนึงที่เดินหน้าเศร้าๆ เข้ามาในร้าน แววตาโรยแลดูอ่อนแรง ซี่โครงแห้งบานเหมือนเนินลูกระนาดตามซอย มันนั่งจ้องผมซักครู่ ได้เนื้อไป 2-3 ชิ้น (แดกเนื้อสันในเชียวนะมึง) แล้วก็ล้มตัวลงนอน

ขาสี่ข้างไขว้กันเหมือนสานตระกร้าหวาย อึดใจมันก็เผลอหลับ ไม่ขยับร่างกาย นิ่งและสั่นเครือในบางจังหวะ เรานั่งเพ่งดูมันนอนพร้อมทั้งนับซี่โครงที่โชว์หราอยู่ข้างลำตัว ขามันครบนะ ไม่เหมือนไอ้เล่ที่ขาเป๋มาตั้งแต่เกิด สิ่งนึงที่มันทั้งคู่เหมือนกันนั่นคือ เห่าเป็นอย่างเดียว แต่สิ่งนึงที่ต่างกันกับไอ้เล่ คือจังหวะและโอกาส ที่ไอ้นี่ไม่มี

จังหวะดีหรือไม่ดี ที่มันดันเกิดมาเป็นลูกหมาเมื่อหลายปีก่อน เจ้าของเป็นใครก็ไม่รู้ หรืออาจจะอยู่ข้างถนนมานานจนจำหน้าตาพ่อหรือแม่ไม่ได้ ไม่มีแม้กระทั่งมือที่คอยสัมผัสหัวเวลาที่มันเหงา ไม่เหมือนไอ้เล่ โอกาสที่ดีที่สุดของไอ้เล่คือได้เกิดมาในบ้านคน ได้รับการดูแลจากผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของ เพียงแต่ไอ้เล่มันจังหวะไม่ดี ที่เกิดมาเป็นหมาแล้วขาเสือกเป๋...

ถ้ามันทั้งคู่เลือกได้ คงอยากเลือกที่จะเกิดมาในบ้านที่มีทั้งเจ้าของและขาไม่เป๋
ไม่ต้องมาอยู่เพียงลำพัง ทั้งๆ ที่ขาครบและดีแบบนี้
แต่ในเมื่อเลือกไม่ได้ ก็ต้องใช้ชีวิตกันต่อไป เพราะอีกไม่นานมันก็คงตื่น
แล้วก็เดินตามจังหวะชีวิตต่อไป

สิงหาคม 2553

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น