9.6.53

วินัยดี เริ่มต้นที่ข้างถนน



คงคุ้นเคยกันดีกับคำว่า วินัย นะครับ สองคำสั้นๆ ที่เราๆ ได้ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก จากตำราเรียนในชั้นหรือสื่อโทรทัศน์โดยทั่วไป ไม่เว้นแม้กระทั่งป้ายกะหลั่วๆ ตามทาง ที่ว่าด้วยความมีวินัยของคนไทย ที่จริงเอาไปใช้กันทั่วโลกแหละ ภาษาปะกิตใช้คำว่า discipline .. อิอิ (ถ้าไม่แน่ใจ เปิดดิกสิ)

เกริ่นนำมาแบบนี้ เหมือนจะมีสาระทำให้ผู้หลงเข้ามาอ่านตกใจ ว่าไอ้นี่เขียนอะไรที่เป็นสาระได้ด้วยเหรอ
ป้าดโธ่..สิครับ ก็เป็นเหมือนกันแหละ แต่ว่าน้อย อิอิ

เมื่อเช้าแหกขี้ตาตื่นมาหลังจากนาฬิกามันปลุกตั้งร้อยรอบ แปดโมงก็ออกจากหอครับ แล้วก็บึ่งไปที่ทำงานเพื่อขึ้นรถบัสหน้ามหาลัย ข้ามฝั่งถนนแล้วก็พบกับฝูงเด็กนักศึกษาต่อแถวยาวกันเป็นหางว่าว เพื่อรอคิวขึ้นรถบัสที่มหาวิทยาลัยจัดไว้ให้สำหรับการเดินทางไปเรียนและทำงานที่อีกวิทยาเขต แถบบางนา

เห็นแว่บแรกก็ร้อง โอ้ว กู ตายย ทำไมมันยาวยังงั้นวะ (หมายถึงแถว) แล้วก็ก้มหน้าก้มตาเดินไปต่อแถวด้วยใจระทึกว่า งานนี้กูรอเหงือกบานแน่นอน ... ซักพักคิวที่ยาวเหยียดก็ค่อยๆ กระเถิบๆๆๆๆ แล้วก็กระชั้นเข้ามาโดยที่เวลายังเดินไปไม่ถึง 1 นาที ก็ได้แต่นึกในใจว่า เออว่ะ แม่งเร็วกว่าที่คิดแฮะ ขนาดแถวยาวแบบนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่ามันจะช้าหรืออย่างไร

หรือว่านี่แหละคือข้อดีของการต่อแถว มันถึงได้ทำให้ระบบการขึ้นรถหน้ามหาวิทยาลัยมันใช้เวลาไม่ยาวนานเหมือนความยาวของแถวนักศึกษาที่มาเข้าคิวรอ ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นก็พร้อมใจกันต่อคิวด้วยความเต็มใจด้วย นึกภาพไม่ออกเหมือนว่าถ้าในทางกลับกัน จำนวนเด็กเยอะเท่านี้ แต่มันแย่งกันขึ้นพร้อมๆ กันที่ประตูข้างรถ มันจะช้าขนาดไหน เพราะต่างคนต่างก็พยายามจะเข้าไปให้ได้
ดีที่นักศึกษาของเรา (แหม ขี้ตู่) เขามีวินัยกันขนาดนี้

...วินัยที่ดี เริ่มต้นที่ข้างถนน...

คือเอามาลงให้ตัวเองอ่าน ใครผ่านมาแล้วจะชมมั่งวะเนี่ย
แฟ้มบุคคลขอปรบมือให้ดังๆ จะมีใครฟังมั้ยวะ
ช่างเถอะ เรามีวินัย ไม่ต้องสนใจใครหรอก

ปล. ก่อนจะถึงคิวผมที่ต้องแตะบัตรคิวขึ้นรถ มีเด็กจีน 3 คนปาดมาจากด้านหลัง พร้อมกับพูดเสียงดังอารมณ์ประมาณว่าพ่อมันตาย..แล้วก็แซงคิวขึ้นรถไป เออ ดี แม่ง เล่นกันแบบนี้เลย ประเทศพี่ไม่มีคำว่า วินัย ล่ะมั้งแสดด

แฟ้มบุคคลขอแจกกล้วยดังๆ เหี้ยจีนๆ
มิถุนายน 2553

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น