10.1.54

เขียนถึงคนบนฟ้า



เมื่อวานตอนเช้า ที่หมู่บ้านผมจัดงานตักบาตรปีใหม่กันครับ ก็ตื่นแต่เช้าไปหาซื้อของแห้งที่ปากซอยบ้าน แล้วก็มาร่วมงานประมาณ 8 โมงเช้า กับพระอีก 19 รูป ตักเสร็จก็ไปหาของกินตอนเช้าที่ร้าน ลองชิม แถวสุวินทวงศ์ แล้วก็เรื่อยๆ เฉื่อยๆ จนเย็นก็กลับถึงบ้าน เป็นอีกหนึ่งวันที่ไม่ได้ออกทริปไปเที่ยวไหน เพราะเพิ่งกลับจากเคาท์ดาวน์มาหยกๆ

ตกเย็นก็นอนรอดูฟุตบอลคู่แดงเดือดครับ จนไปจบที่คู่สอง แต่อยู่ไม่ทัน
เพราะหลับคาโซฟาไปเสียก่อน สะดุ้งตื่นมากอีกทีตอนราวๆ ตีสาม มากหรือน้อยกว่านั้นไม่ได้ดูนาฬิกา
ด้วยอารมณ์ประมาณว่า ฝันไป...

ฝันว่าได้อยู่ข้างๆ ผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งคุ้นหน้ากันเป็นอย่างดี
ท่านยิ้มให้แค่แว๊บนึงก่อนผมสะดุ้งตื่น แต่เราก็เข้าใจในความหมายของรอยยิ้มนั้นโดยทันที..
เหมือนไม่ต้องมีคำอธิบาย

หลังจากที่ผมตักบาตรเสร็จทุกครั้ง ผมจะฝันถึงยายผม ทุกครั้งไป เหมือนความคิดมันยังวนเวียนอยู่ ตอนท่านเสีย ผมเป็นคนเดียวของตระกูล ที่ไม่ได้บอกลา และไม่ได้อยู่ดูใจท่าน ทั้งๆ ที่ผมเป็นหลานคนที่ท่านรักมากที่สุด เลี้ยงมากที่สุดกว่าหลานคนไหน

เหมือนอะไรมันกำหนดไว้ ตอนเรียนปี 1 เลิกเรียนแล้วผมยังไม่กลับแปดริ้ว ทั้งๆ ที่ทุกวัน ผมจะกลับเร็วเสมอๆ แต่วันนั้น ของที่ใช้ทำงานมันดันหมด ผมต้องนั่งรถย้อนจากบางเขน ไปเซ็นทรัลลาดพร้าว เพื่อเดินซื้อของที่ใช้เรียน กลับมาถึงบ้าน ราวๆ หกโมงครึ่งได้ บ้านปิด ไม่มีคนอยู่ สังหรณ์ใจทีแรกคือแม่ผมเข้าโรงบาลแน่ จนข้างบ้านบอกว่า เขาพายายไปโรงพยาบาล
ผมเลยตามไป

แต่ไม่ได้เจอยาย เจอแต่ร่างไร้วิญญาน...

มันเหมือนยังไม่ได้บอกลากัน มันก็เลยเป็นหนึ่งเรื่องที่ติดอยู่ในหัวใจตลอดเวลา

ถ้าวันนั้นผมรีบกลับ...ถ้าวันนั้นผมไม่ซื้อของเรียน...หรือ

ถ้าเช้าวันนั้น ผมไม่รีบออกจากบ้าน เพื่อไปเรียน
และหันหลังมายิ้มให้ยายซักที ก่อนไป ก็น่าจะดี

15 ปีผ่านไปแล้ว เหมือนเกิดขึ้นเมื่อวาน เสมอๆ และตลอดไป

คิดถึงยายนะ
เสมอและตลอดไปแหละ
ตักบาตรแล้วได้รับอะไรจากหนูใช่ไหม
แล้วจะตักให้ตลอดไปนะ
รักยายเสมอ


มกรา 53
ปล. 15-16 ปีแล้วมั้งที่ผมไม่มียายให้กอดเหมือนใครๆ
ยายมาเข้าฝัน ทำให้ผมได้เขียนถึงท่านในวันที่ไม่มียายอีกแล้ว
ใครยังมียายและตา ช่วยกอดท่านเผื่อผมด้วยนะ แล้วบอกรักท่านเหมือนที่ผมอยากบอกด้วยล่ะ
:)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น