17.4.58

แด่ความขี้เกียจ






เมื่อคืน เราคุยกับหญิงเรื่อง เว็บๆ นึงที่ก๊อบรูปพอดี ไปแปะบนหน้าขายสระว่ายน้ำเป่าลมของตัวเอง
โดยที่ทางเรา ไม่ได้รับการติดต่อ ขออนุญาตเพื่อนำภาพไปลงในนั้น

คุยกันซักพักก่อนนอน ว่า ทำไมคนเราบางคน ถึงได้ขี้เกียจ ... ขอ ติดต่อ ... หรือ หาช่องทางเพื่อที่จะขอบคุณ (ไม่ต้องขอบคุณก็ได้เอ้า) เอาแค่บอกกล่าวว่า พี่ครับ ผมชอบรูปนี้ของพี่ บลาๆๆ
ขอนำไปใช้แล้วลง Credit ให้ได้ไหมครับ?

ผมว่าเพียงเท่านี้ ทั้งผมและแฟนก็น่าจะยินยอมให้เขาไปนะ
แต่นี่กลับกลายเป็น หยิบรูปไปดื้อๆ ซะงั้น ก็เลยต้องมีการ Line คุยกับทางร้านโดยตรงในตอนเช้า
วันนี้ หลังจากปั่นจักรยานมาถึงที่ทำงาน 8 โมงเด๊ะ

มาแบบกระท่อนกระแท่นมาก 55 ดันหยุดสงกรานต์ซะหลายวัน ระหว่างนั้นฟ้าฝนก็ไม่อำนวยกับการปั่น
ก็เลยหยุดปั่น นอนขี้เกียจอยู่กับบ้านมันซะเลย

พอคุยเรื่องรูปภาพบนเว็บนั้นเสร็จ เขาก็ชี้แจง ขอโทษ และลบรูปทิ้งไปทั้งหมด
ซึ่งจริงๆ แล้ว ผมไม่ได้ต้องการให้เขาทำแบบนั้นนะ มันเหมือนไม่เข้าใจ มารยาท ของสังคม
แต่มันกลายเป็น โยนทิ้ง ทำผิดแล้วลบ คือ หายกันนะ...

วิกฤตชิบหายครับ กับความคิดแบบนี้
แล้วต่อๆ ไป ถ้าคุณเกิดไปเจอรูปที่ถูกใจอีก หยิบมันมาใช้งานโดยไม่ได้ขออีกล่ะ
...เจ้าของไม่มาเจอก็ถือว่าโชคดีไป หรือยังไง ... หรือถ้าเขาเอาเรื่องมากกว่าผม
คือฟ้องแหลก ... จะทำยังไงวะ


มันน่าจะเป็นการฝึก การให้เกียรติ กับแหล่งที่มา ... รึเปล่าวะ
หรือ ขอ ให้เป็นนิสัย ... ได้หรือไม่ได้ นั่นอีกเรื่อง ... ใช่มั้ยวะ
คือนี่เหมือนเดินเข้าบ้านใครก็ไม่รู้ เจอน้ำวางไว้แก้วนึง ยกกินฟั๊บบบบ
เจ้าของมาเจอถามว่า ขอหรือยัง ...
แม่งเขวี้ยงแก้วทิ้งแล้ววิ่งหนี บอก หายกันนะ


.... เอ้า พี่ครับ ผมก็ยังไม่ได้ว่าอะไร แค่บอกว่า น่าจะขอเราก่อนนะ
บางทีผมอาจจะมีเป๊บซี่ โซดา น้ำปั่นอร่อยๆ มากกว่าน้ำเปล่าที่พี่เพิ่งแดกไปมะกี้ แล้วโยนทิ้ง
ก็ได้

สรุปก็เป็นอันว่าจบเห่ครับ เขาลบรูปทิ้งไปละ
การสนทนาของผมกับร้าน ทาง Line ก็จบตรงนั้นล่ะ
การซื้อขาย (ของหลายอย่างในเว็บนั้น) ก็จบด้วย
มีของที่ผมอยากได้ (เหมือนกัน) ในนั้นเยอะนะ

แต่ช่างเถอะ เขาคงเข้าใจเราเท่านี้
ไปหาซื้อเจ้าใหม่ก็ได้วะ

เมษา 58

ไม่ได้พูดเรื่องปั่นจักรยานเลย เวร ช่างเถอะ เลยมาแล้ว ขี้เกียจ 555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น