14.3.54

เรายังมีเหลือ...



เคยถามแม่เหมือนกัน ว่าเบื่อมั้ยที่เป็นหอบมายี่สิบปี แม่ตอบว่า เหนื่อยแล้วจะให้ทำยังไง?
แถมบอกต่ออีกว่า ช่างเถอะ คิดซะว่าได้ไปเที่ยวโรงพยาบาลบ่อยกว่าใครก็แล้วกัน อยู่บ้านบางทีก็เซ็ง...
เคยถามแม่อีกรอบ ว่า เบื่อมั้ยที่ขาเป็นมะเร็ง แม่บอกว่า เฉยๆ ละ เบื่ออย่างเดียวคืออยากเดินไปไหนก็ลำบาก ไม่เหมือนตะก่อน
อยากซักผ้าหลังบ้าน เดินไปแม่งก็เหมือนระยะทางจากหน้าบ้านไปหลังบ้าน มันไกลเหลือคณา

แต่แกก็ยังบอกว่า ช่างเถอะ ดีขึ้นแล้ว นี่ก็นวดทุกวัน เห็นมั้ยล่ะว่ามันดีขึ้น?..ผมก็พยักหน้าหงึกๆ

แกไปเที่ยวเชียงใหม่กับพ่อ แล้วก็พี่สาว (รวมถึงไอ้สองตัวจอมซนนั่นด้วย) พ่อซื้อวีลล์แชร์ให้เป็นเครื่องทุ่นแรง เพราะไม่อยากให้แม่เดินเยอะ ขาจะได้ไม่บวม พอกลับมาจากเชียงใหม่ พ่อก็มาเล่าแบบติดตลกว่า แม่นั่งได้แว้บเดียว แล้วก็ต้องมาเข็นวีลล์แชร์เอง
นึกภาพครูแก่ๆ ขาไม่ดี แต่เข็นวีลล์แชร์เปล่าๆ ในเชียงใหม่ เพราะแกเบื่อที่จะนั่งอยู่บนขาพิเศษติดล้อ (แถมยังมีบางช็อต เข็นให้ไอ้สองตัวนั้นได้นั่งเล่นกันเพลินซะอีก) แกบอกกับผมว่า ... กูก็อยากเดินมั่งซีวะ... 555

แม่ผมก้าวพ้นสภาวะของความทอดถอนใจและความหมดอาลัยตายอยากกับชีวิตไปไกลแล้ว ไกลเกินกว่าที่จะหันหลังกลับมามอง ว่า ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น มันไม่น่าจะเกิดแบบนี้ หรือทำไมถึงต้องมาเกิดกับเราด้วย (วะ) ทุกวันนี้แกมีความสุขอยู่กับบ้านที่แปดริ้ว สาละวนอยู่กับเด็กในคอนโทรลของแกทั้งสองคน ที่กำลังอยู่ในช่วงเติบโต และมีความสุขอยู่กับการฟังและดูพ่อ โม้เกี่ยวกับต้นไม้ ของแก ที่ขนเอามาปลูกไว้ที่บ้านลาดกระบังจนจะเป็นป่าอยู่แล้ว (ต้นไม้มีเกือบครบสายพันธุ์ เหลือแต่งู)

เวลาของแม่เหลือน้อยลงไปทุกทีๆ เพราะโรครุมเร้ามากมาย (ผมกับแม่คุยเรื่องนี้กันบ่อย เหมือนการขี้ อันปรกติสามัญ)
แม่เคยบอกไว้ว่า แกยังมีความสุขอยู่ แม้สุดท้ายมันจะเหลือเพียงแค่หยิบมือก็ตาม หากแต่เรายอมรับ และทำความเข้าใจได้ว่า โรคภัยไข้เจ็บทุกอย่าง มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ในแบบที่เราเลือกไม่ได้แล้วล่ะก้อ

เราไม่เพียงแต่จะมีความสุข
หากแต่เรายังจะมีความเข้าใจ และยังมีความสุข กับการใช้เวลาที่เหลือ
...ได้มากเพียงพอเสียด้วย

มีนา 54

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น