เคยเขียนไว้ใน มะเร็งของแม่ฉัน เมื่อปี 2552
เมื่อวานคุย LINE กับพ่อ แกส่งภาพขาของแม่ ที่พ่อพาไปเข้ารับการรักษา ภูษาบำบัด ที่ รัชวิภา MRI CENTER เป็นครั้งแรก ในจำนวน 5 ครั้ง เพื่อลดอาการบวมของขาซ้าย อันเกิดจากระบบน้ำเหลืองที่เสียศูนย์จากผลข้างเคียงของการฉายแสง ตอนเป็นมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนที่ต้นขาใหม่ๆ
ผลการรักษาหลังจากรัดด้วยการ "ขันชะเนาะลดบวม" ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ เพราะขนาดของการบวมลดลง แต่คงต้องรอดูผลหลังจาก 5 วันผ่านไปอีกที ว่าจะเป็นไปในทางไหน ตามคำวินิจฉัยของหมอ
ผลที่ได้เพิ่มเติม หลังจากการรักษาที่นี่อีก 1 อย่างก็คือ หลังจากนี้ แม่จะกินเจตลอดชีวิต เพื่อลดปริมาณไขมันในร่างกาย ที่มีจำนวนมากจนเกินไป ฟังแล้วก็รู้สึกใจชื้น สุขภาพร่างกายของแกจะได้ดี อยู่เลี้ยงหลานคนที่ 3 ไปอีกนานๆ ต้องขอบคุณทั้งหมอ ทั้งวิทยาการของการรักษาต่างๆ ที่แม่ผ่านมาหลายครั้งเป็นอย่างมาก
ผมเคยบอกพ่อกับแม่ หรือใครๆ เกี่ยวกับอาการป่วยของแม่ผมไว้ว่า
"ถ้าแม่อยู่กับพ่อ ผมสบายใจมากกว่าอยู่กับหมอที่โรงพยาบาลซะอีก"
เพราะ กำลังใจ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดของการรักษา หรือในยามที่เราเจ็บไข้ได้ป่วย
แม่ มีพ่อ เป็นเสมือนยาอีกขนานนึง ที่ทำให้แกอบอุ่นเสมอๆ
ณ วันนี้ เกือบ 30 ปีแล้วที่เห็นแม่เดินเข้าออกโรงพยาบาล ผมก็ยังยืนยันคำเดิมๆ เหมือนเคย
"ถ้าแม่อยู่กับพ่อ ผมสบายใจมากกว่าอยู่กับหมอที่โรงพยาบาลซะอีก"
พ.ค. 56
ปล. แม่บ่นๆ ตอนคุยกันว่า อย่าเพิ่งพูดว่าลูกในท้องดื้อ ก่อนที่จะออกมาลืมตาดูโลกสิ - ให้พูดแต่เรื่องดี
ปลล. นี่ก็เป็นอีก 1 เรื่องที่แม่สอนผมเสมอ ไม่ว่าแกจะอายุมากแค่ไหนแล้วก็ตาม
ปลลล. แต่ถ้าขันชะเนาะแม่ทั้งตัวได้ แม่ก็จะไม่อ้วนนะ 5555555555
เวลาแม่ไปเล่นบอล แม่ก็ไม่ต้องใส่สนับแข้งข้างนึงนะครับ
ตอบลบ:) คิดแต่สิ่งดีๆ อย่างที่แม่ท่านบอกหน่ะดีแล้ว